ผู้ชมทั้งหมด 1,605
TPCH จัดทัพพร้อมลุยประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก 12 โครงการ 40 เมกะวัตต์ วางเป้าภายในปี 66 มีกำลังการผลิตเป็น 250 เมกะวัตต์ ขณะที่ภายรวมรายได้ปี 64 มั่นใจเติบโตอย่างน้อย 30-40%
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง 150 เมกะวัตต์) เนื่องได้ดำเนินการลงนามเซ็นสัญญา (MOU) กับวิสาหกิจชุมชนไว้แล้ว โดยเตรียมยื่นประมูลทั้งหมด 12 โครงการ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 10 โครงการ ชีวภาพ 2 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 40 เมกะวัตต์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ แต่ก็มีบ้างโครงการที่อยู่พื้นที่เหนือตอนล่าง และก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อย่างไรก็ตามในการร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้นบริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพความเชี่ยวชาญที่ทำโรงไฟฟ้าชีมวล ชีวภาพมากนานซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และยังมีความพร้อมทั้งในพื้นที่ เทคโนโลยี และสภาพคล่องทางการเงินเป็นอย่างดี และก็มั่นใจว่าได้ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการนี้ ซึ่งจะได้ตามการยื่นประมูลหรือไม่ก็ต้องรอดูผลต่อไป
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ และโรงไฟฟ้าขยะ โดยมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 250 เมกะวัตต์ในช่วงปี 2564-2566 โดยแบ่งเป็นเป้าหมายของโรงไฟฟ้าชีวมวล-ชีวภาพ 200 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะ 50 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ในปัจจุบันนั้นบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือหรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ราว 126 เมกะวัตต์ โดยในจำนวนนี้เป็นโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 110 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้บริษัทเตรียม COD เพิ่มอีก 16 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 6 เมกะวัตต์ ที่จะ COD ในปลายปีนี้ และโรงไฟฟ้าขยะ 10 เมกะวัตต์ที่จะ COD ภายในไตรมาส 2/2564
อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายการขยายลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะนั้นปัจจุบันมีศักยภาพความพร้อมที่จะพัฒนาราว 50 เมกะวัตต์ที่ต้องรอให้กระทรวงพลังงานเปิดประมูลตามนโยบายการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ตามแผน PDP 2018 ซึ่งหากชนะการประมูลทั้งหมดก็จะส่งผลให้ TPCH มีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าขยะของบริษัทฯเป็น 60 เมกะวัตต์มากกว่าเป้าหมาย ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวล-ชีวภาพนั้นนอกจากเตรียมยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว ยังมองหาโอกาสในการซื้อกิจการ (M&A) อีกด้วยเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย 200 เมกะวัตต์
ส่วนรายได้รวมในปี 2564 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 30-40% เนื่องจากจะได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD ในปลายปี 2563 ที่จะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ และได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าที่จะ COD ในปีนี้ 16 เมกะวัตต์ ส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นในปีนี้บริษัทฯ สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี หลังจากที่มีประสบการณ์ในปีก่อน