TOP มั่นใจโครงการCFP เสร็จตามระบบปีนี้ ธุรกิจโรงกลั่นหนุนผลการดำเนินงาน

ผู้ชมทั้งหมด 580 

ไทยออยล์ ลั่น โครงการ CPF เปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ครบทุกยูนิคในปีนี้ ดันกำลังการกลั่นแตะ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ด้านดีมานด์น้ำมันเบนซิน-JET เติบโตตามภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ ปรับตัวดีขึ้น ส่วนธุรกิจโอเลฟินส์ ยังได้รับแรงกดดัน

น.ส.ชุลียล เลี้ยงรื่นรมย์ ผู้จัดการ-นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยในงาน Oppday Year End 2023 TOP วันที่ 27 ก.พ.2567 โดยระบุว่า โครงการพลังงานสะอาด ( Clean Fuel Project: CFP ) ที่จะส่งผลให้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 95% ซึ่งได้เปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์(COD) ยูนิคที่ผลิตน้ำมันดีเซล ตามมาตรฐาน ยูโร 5 ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา และยูนิคที่เหลือจะทยอย COD เต็บระบบในปีนี้

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี2567 คาดว่า จะมีดีมานด์น้ำมันเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการโรงกลั่นฯให้เติบโต โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องบิน( JET) ที่ฟื้นตัว ขณะที่ GRM ช่วงเดือนก.พ.นี้ ยังทรงตัวระดับ 8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนเบนซินและดีเซลก็ยังเติบโตอยู่

ขณะที่ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ ปี2567 มองว่าว่า ธุรกิจโรงกลั่น ยังเติบโตดีตามทิศทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยปีนี้ คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน โดยคาดการณ์ว่าน้ำมันดีเซล จะเติบโตราว 0.4% ,น้ำมันเบนซิน จะเติบโตราว 3.7% ตามทิศทางยอดขายรถที่เติบโตได้ดี ,น้ำมันJET จะเติบโตราว 24.2% และน้ำมันเตา จะหดตัวลง 1.7% ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง

ด้านตลาดปิโตรเคมี โดยสายอะโรเมติกส์ ตัวสาร PX และเบนซีน (BZ) คาดว่า ธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัว หลังซัพพลยใหม่เข้าในตลาดน้อยกว่า ส่วนสายโอเลฟินส์ ยังได้รับแรงกดดันจากซัพพลายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น