ผู้ชมทั้งหมด 839
SUPER มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตนิวไฮ พร้อมลงทุนเอสพีพี ไฮบริดเฟิร์ม 2,000 เมกะวัตต์หนุน EEC ใช้พลังงานสะอาด เตรียมตอกเสาเข็มเอสพีพี ไฮบริดเฟิร์มจ.สระแก้ว 49 เมกะวัตต์ ทยอย COD พลังานลมเวียดนาม 421 เมกะวัต์หนุนโตต่อเนื่อง
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลัง 2564 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2564 เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม กำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเฟสแรก 50 เมกะวัตต์ในช่วงไตรมาส 3/2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 221 เมกะวัตต์ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 ส่วนที่เหลืออีก 200 เมกะวัตต์ จะทยอย COD ครบในปี 2565
ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวยังเป็นปัจจัยหนุนให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ในระดับ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 25-30% ทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 6,768 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯ ทำรายได้แล้ว 2,354 ล้านบาท นอกจากนี้แล้วรายได้ของปี 2564 ยังจะได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการที่ดำเนินการ COD ไปแล้ว 1,538 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตที่มีอยู่ในมือ 2,116 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอย COD ครบภายในปี 2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ปี 2565 คาดว่าจะมีรายได้ราว 13,000 ล้านบาท และในปี 2566 คาดว่ามีรายได้แตะระดับ 16,000 – 17,000 ล้านบาท เติบโตตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งการลงทุนในรูปแบบซื้อกิจการ (M&A) และการประมูลเพื่อลงทุนในโครงการใหม่ โดยวางเป้าหมายการเติบโตปีละ 250-300 เมกะวัตต์ ส่วนการลงทุนในประเทศไทยก็มองโอกาสการลงทุนในพื้นที่เขตพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการลงทุนในโครงการที่เป็นรูปแบบ Private PPA ซึ่งปัจจุบันมีโครงการโซลาร์รูฟท็อปอยู่ราว 10-15 เมกะวัตต์ และรอประกาศผลอยู่ 2 โครงการ อย่างไรก็ตามในอนาคตได้ให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ทำในรูปแบบ Private PPA อีกด้วย
สำหรับโอกาสการลงทุนใน EEC นั้นบริษัทยังมองไปถึงการลงทุนต่อยอดโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid Firm เพราะหาก EEC เติบโตขึ้นตามเป้าหมาย แล้วไปติดเงื่อนไขตามข้อตกลงปารีส (COP21) ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อน และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) เพื่อก้าวสู่การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Carbon Neutral) โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งประเทศไทย ยังเข้าร่วมลงนามลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20-25% ภายในปี 2573 ดังนั้น SPP Hybrid Firm จะตอบโจทย์สำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯและยุโรป เพื่อไม่ให้โดนเก็บภาษีคาร์บอนฯ ดังกล่าว
ดังนั้น SUPER มีความพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนความต้องการใช้พลังงานสะอาด 100% ใน EEC หากภาครัฐมีเป้าหมายจะทำให้ EEC เป็น Clean Zone บริษัทฯ ก็มีความพร้อมลงทุนด้วยกำลังการผลิต 1,000 -2,000 เมกะวัตต์ โดยสามารถผลิตไฟฟ้าและส่งจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงตามความต้องการของลูกค้าด้วยระบบผลิตไฟฟ้าในรูปแบบ SPP Hybrid Firm ทั้งโซลาร์ฟาร์ม โซลาร์รูฟท็อป ไบโอแมส พลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
ความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ซึ่งบริษัท ซุปเปอร์บล็อก (บริษัทย่อย) เป็นผู้ชนะการประมูลเมื่อปี 2560 กำลังการผลิตติดตั้ง 49 เมกะวัตต์ มีปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) 16 เมกะวัตต์ อายุสัญญา 20 ปี ตั้งอยู่ที่ จ.สระแก้ว นั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้ แล้วเสร็จและ COD ในปลายปี 2565
โครงการนี้จะมีระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ขนาด 136 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และไบโอแก๊สอีก 1 เมกะวัตต์ คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท ราคาขายไฟฟ้าตามช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) อยู่ที่ 2.88 บาทต่อหน่วย โดยโครงการนี้จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 230-250 ล้านบาทต่อปี และมีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ที่ระดับ 16%