ผู้ชมทั้งหมด 445
SPRC ปี 65 โชว์กำไร 7.6 พันล้านบาท รับปัจจัยหนุนการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่น ความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ขณะที่ไตรมาส 4 ขาดทุน 6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลั่นพร้อมจ่ายเงินปันผลอีก 0.15 บาทต่อหุ้น
นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เผยผลการดำเนินงานและผลประกอบการในปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 7,673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.67% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 4,746 ล้านบาท ขณะที่รายได้สุทธิอยู่ที่ 222 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าการกลั่นตลาดของปี 2565 ที่ไม่รวมผลกำไรและขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 9.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 3.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล การเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นนี้เป็นผลมาจากส่วนต่างราคาน้ำมันดิบต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่พุ่งสูงขึ้น โดยมีสาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง
ส่วนไตรมาสที่ 4/2565 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเทียบกับไตรมาสที่ 3/2565 ที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 137 ล้านเหรียญสหรัฐ การขาดทุนในไตรมาสที่ 4/2565 มีปัจจัยสำคัญจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ประกอบกับส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินต่อน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากจีนแผ่นดินใหญ่และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ค่าการกลั่นตลาดร่วงลงเล็กน้อยจาก 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 3/2565 เป็น 5.39 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 4/2565
อย่างไรก็ตาม SPRC ยังคงรักษาระดับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศเพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุด สำหรับปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบในไตรมาสนี้อยู่ที่ 163 พันบาร์เรลต่อวัน หรือ 93% ของกำลังการกลั่น ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า
พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 1/2566 และมีมติเสนอจ่ายเงินปันผลของปี 2565 จำนวน 132.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะทำการยื่นเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ให้พิจารณาอนุมัติในวันที่ 5 เมษายน 2566 โดยหลังจากการหักลบเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 จำนวน 112.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 0.96 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำการจ่ายไปแล้วเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2565 ดังนั้น เงินปันผลคงเหลือที่จะจ่ายเพิ่มเติม คือ 19.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือแปลงเป็นเงินบาทเทียบเท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น โดยการแปลงจากดอลลาร์สหรัฐเป็นบาท จะใช้อัตราขายถัวเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทยย้อนหลัง 7 วันทำการของธนาคาร ก่อนวันที่มีหนังสือบอกกล่าวการประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 10 มีนาคม 2566 โดยกำหนดวันจ่ายเงินเป็นวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 แล้ว
นายโรเบิร์ต โดบริค กล่าวว่า “SPRC ยังคงรักษาการดำเนินงานที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความผันผวนของตลาด เรายังคงมุ่งมั่นแสวงหาโอกาสในการบริหารกระแสเงินสด พร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน รวมถึงการเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเรา และเมื่อไม่นานนี้ SPRC เพิ่งได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (fuels marketing business) ซึ่งนับเป็นการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้านห่วงโซ่คุณค่าที่จะทำให้ SPRC สามารถให้บริการลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้นผ่านการตลาดและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูงของบริษัทฯ อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้ธุรกิจของเราสามารถเติบโตและก้าวไปในอนาคตอย่างยั่งยืนอีกด้วย”