SENA ลุยขยายลงทุนโซลาร์รูฟท็อป Private PPA ตอบโจทย์ยุคค่าไฟแพง

ผู้ชมทั้งหมด 545 

SENA ลุยลงทุนขยายลงทุนโซลาร์รูฟท็อป Private PPA คาดปิดดีลไตรมาส 3-4/65 อีก 3-4 โครงการรวม 10 MW ชี้ตอบโจทย์ยุคค่าไฟแพง พร้อมนำร่อง ERC Sandbox ระยะที่ 2 โครงการเสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน 10 หลัง ขณะที่ภาพรวมรายได้รวมปีนี้คาดโต 10%  

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ในยุคค่าไฟฟ้าแพง และรองรับกับเทรนด์พลังงานสะอาด ลดภาวะโลกร้อน เป็นโอกาสดีในการขยายการลงทุนธุรกิจโซลาร์ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบโซลาร์เซล หรือ Solar EPC และ Solar Warehouse ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เสนา สมาร์ทเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทในเครือ SENA ให้บริการรับเหมาติดตั้งและวางระบบโซลาร์บนหลังคา โดยเจาะกลุ่มลูกค้า โรงพยาบาล โชว์รูม โมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ โรงงาน คลังสินค้า เป็นต้น แล้วดำเนินการขายไฟฟ้าในรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) ซึ่งในปัจจุบัน 3-4 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 15-20 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างรอลงนามอีก 3-4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์  

ส่วนการขยายลงทุนโซลาร์ฟาร์มนั้นคงต้องรอความชัดเจนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP 2022 ว่าจะมีการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มบรรจุในแผนกี่เมกะวัตต์ ซึ่งหากมีความชัดเจน ภาครัฐประกาศรับซื้อไฟฟ้าก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูล ส่วนแผนซื้อกิจการ M&A โครงการโซลาร์ฟาร์มที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนต้องสูงถึงจะลงทุน ซึ่งในปัจจุบันโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ให้ผลตอบแทนดีนั้นไม่มีแล้ว

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน SENA มีกำลังการผลิตไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มราว 40 เมกะวัตต์ ดำเนินการเชิงพาณิชย์มาแล้ว 7-8 ปี จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี สำหรับผลดำเนินการของธุรกิจโซลาร์นั้นปีนี้มีรายได้รวม 212.47 ล้านบาท แบ่งเป็นโซลาร์ฟาร์ม 198.59 ล้านบาท คิดเป็น 93.5% Solar EPC 9.04 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% Solar Warehouse 3.28 ล้านบาท คิดเป็น 1.5% Solar Cell Rental 1.56 ล้านบาท คิดเป็น 0.7% โดยธุรกิจโซลาร์สามารถทำกำไรขั้นต้นได้ถึง 56%

ดร.เกษรา กล่าวว่า ในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เซลเต็มรูปแบบนั้น บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดและธุรกิจต่อเนื่องโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (Solar Rooftop) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคค่าไฟฟ้าแพงและเทรนด์พลังงานสะอาด และลดภาวะโลกร้อนผ่าน บริษัท เสนาโซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด บริษัทในเครือ SENA ที่ดำเนินธุรกิจติดตั้งโซลาร์ฯ ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบครบวงจร โดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางเทคโนโลยี การลงทุนใหม่เพื่อรองรับรูปแบบพลังงานใหม่ๆ ในอนาคต

โดยการพัฒนาโครงการหมู่บ้านจัดสรรนั้นจะติดตั้ง Solar Rooftop ทุกหลัง ขนาดกำลังการผลิตขึ้นอยู่กับขนาดของบ้าน โดยบ้านเดี่ยวจะติดตั้ง Solar Rooftop ขนาดกำลังการผลิต 3-4 กิโลวัตต์ต่อหลัง ทาวน์เฮ้าส์ กำลังการผลิตติดตั้ง 2 กิโลวัตต์ต่อหลัง สำหรับโครงการบ้านจัดสรรของ SENA ที่ติดตั้ง Solar Rooftop บริษัทจะผลักดันให้ลูกบ้านเสนอขายไฟส่วนที่เหลือให้กับรัฐเพิ่มเติม ซึ่งรัฐได้มีการปรับราคารับซื้อจาก 1.68 บาทต่อหน่วย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วย ทำให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น โดย SENA ได้เสนอขายไฟส่วนเกินให้กับลูกบ้านผ่านโครงการนี้ ตั้งแต่ปี 2564 ถึงขณะนี้ยื่นแล้ว 295 ราย คิดเป็น 891.67 กิโลวัตต์ และยังจะยื่นเพิ่มเติมอีกในปีนี้

ทั้งนี้ SENA ได้ติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับลูกบ้านทุกโครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว และในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียม มาตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีบ้านที่ติดตั้ง Solar Rooftop  แล้ว จำนวน 47 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 22 โครงการ และโครงการแนวราบ 25 โครงการ หรือรวมกว่า 700 หลังคาเรือน คิดเป็นการผลิตไฟฟ้ากว่า 2,000 กิโลวัตต์

นอกจากนี้แล้ว SENA ยังได้สมัครเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (ERC Sandbox) เฟส 2 กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อพัฒนานวัตกรรมในธุรกิจพลังงานสะอาดร่วมกัน เพื่อให้การบริหารจัดการรับซื้อไฟฟ้าเข้าสู่ระบบไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยจะเริ่มนำร่องที่โครงการเสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน 10 หลัง ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จก็มีโอกาสที่จะต่อยอดไปสู่โครงการอื่น

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตในระดับ 10% เทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 3,191 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนกว่า 95% นั้นมาจากรายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจโซลาร์