RATCHเล็งซื้อกิจการโรงไฟฟ้า245MW

ผู้ชมทั้งหมด 1,344 

RATCH เล็งซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในปีนี้ 245 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายที่จะคว้ากำลังการผลิตใหม่ 700 เมกะวัตต์ มั่นใจผลการดำเนินงานปี 64 เติบโตดีกว่าปี 63 หลังเตรียม COD เพิ่ม 376 เมกะวัตต์ พร้อมเตรียมกู้เงินกลางปีนี้ 30,000 ล้านลงทุนโรงไฟฟ้าหินกอง

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาเพิ่มจำนวน 700 เมกะวัตต์ โดยลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน 350 เมกะวัตต์ และลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ราว 245 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุน Green field หรือลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้องเพลิง ขณะที่สิ้นปี 2563 คาดว่ากำลังการผลิตจะเป็นไปตามเป้าหมาย 8,700 เมกะวัตต์

โดยการขยายการลงทุนยังคงเน้นในประเทศที่ RATCH มีฐานการลงทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน และยังมองหาโอกาสในประเทศไต้หวัน เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย  เป็นต้น โดยในปี 2564 บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ราว 10,000 -15,000 ล้านบาท สำหรับลงทุนในโครงการใหม่ การซื้อกิจการและลงทุนในโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมั่นใจว่าจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นกว่าปี 2563 เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) รวมประมาณ 376 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากโครงการพลังงานลมคอลเลกเตอร์ Collector ในออสเตรเลีย ที่จะเริ่ม COD ในไตรมาส 1/64 , โรงไฟฟ้าพลังงานลม Thanh Phong ในเวียดนาม ที่จะเริ่ม COD ในราวเดือนตุลาคม 2564 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ในอินโดนีเซีย และจะได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการใหม่ที่มีเป้าหมายการ M&A ในปีนี้

ขณะที่การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซกอง 4A และ 4B ขนาดกำลังการผลิต 355 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาว นั้นอยู่ระหว่างการเจรจาราคารับซื้อไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศรับซื้อไฟฟ้าส่วนที่เหลือ 3,000 เมกะวัตต์ จากที่มีการลงนามรับซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาวไว้ 9,000 เมกะวัตต์ภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าไทย-สปป.ลาว ซึ่งตามแผนนั้นโครงการเซกอง 4A และ 4B จะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ปี 2569-2570

ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง จ.ราชบุรี ขนาดกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเงินกู้วงเงิน 30,000 ล้านบาท คาดว่ากลางปี 2564 จะสามารถดำเนินการกู้เงินได้ ซึ่งจะเป็นการกู้เงินทั้งสถาบันการเงินในไทยและต่างประเทศ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเฟสแรกขนาด 700  เมกะวัตต์ ช่วงกลางปี 2564 กำหนด COD ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 และเฟส 2 อีก 700 เมกะวัตต์ COD วันที่ 1 มกราคม 2568 

ส่วนการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าหินกองนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุน 49% ในการเตรียมคัดเลือกผู้จัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)  โดยมีบริษัทฯ ที่เสนอขาย  LNG หลายราย ดังนั้นจึงต้องเลือกรายที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด  ซึ่งโรงไฟฟ้าหินกองจะใช้LNG นำเข้าประมาณ 1.4 ล้านตันต่อปี ตามที่เสนอขออนุมัติจาก กกพ.

อย่างไรก็ตาม การนำเข้า LNG ยังต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงาน  ที่กำลังพิจารณารูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันราคา LNG นำเข้าอย่างเหมาะสม ซึ่งหากนโยบายมีความชัดเจนแล้วจะช่วยให้บริษัทฯ กำหนดเงื่อนไขการนำเข้าก๊าซฯได้ถูกต้อง ว่าควรจัดซื้อแบบสัญญาระยะยาว หรือซื้อแบบตลาดจร เพื่อให้ได้ราคาก๊าซฯที่ทำให้ค่าไฟถูกลง ประชาชนไม่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงเกินไป

ส่วนโครงการลงทุนในธุรกิจจัดหาเชื้อเพลิงชีวิมวลอัดแท่ง (Wood pellet) ที่จะลงทุนในสปป.ลาว คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 1-2/64 โดยบริษัทได้รับสัมปทานพื้นที่เพื่อปลูกพืช 4 หมื่นไร่ ซึ่งจะดำเนินการในเฟสแรกก่อน 2 หมื่นไร่ เพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง 6 หมื่นตันต่อปี และเริ่มจำหน่ายในปี 65 หากสามารถดำเนินการได้ดีก็จะพัฒนาในส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นไร่ ส่วนตลาดรับซื้อ Wood pellet นั้นเป็นลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน