ผู้ชมทั้งหมด 1,289
OR ครึ่งปีหลังเล็งปิดดีลซื้อกิจการเพิ่ม 5 บริษัท เดินหน้าขยายการลงทุนตามแผน 9.6 หมื่นล้าน มั่นใจยอดขายน้ำมันปี 65 โต 8-10% รับปัจจัยหนุนเปิดประเทศ ราคาน้ำมันลด ไตรมาส 4 ไฮซีซั่นท่องเที่ยว ขณะที่การลงทุนในพม่าไม่กระทบการจ่ายเงิน
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวภายหลังเปิดงาน “Inclusive Growth Days empowered by OR” โดยระบุว่า คาดว่าปริมาณยอดจำหน่ายน้ำมันของ OR ในปี 2565 จะเติบโตประมาณ 8-10% เทียบกับปี 2564 ที่มียอดจำหน่ายน้ำมันจำนวน 23,150 ล้านลิตร โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับช่วงไตรมาส 3/2565 มีวันหยุดหลายวัน ขณะที่ไตรมาส 4/2565 ก็เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวก็จะทำให้ภาพรวมการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปัจจุบันของ OR อยู่ที่ประมาณ 38-39% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 35-36% ส่วนของนโยบายการลดค่าการตลาดของน้ำมันแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน ซึ่งในส่วนของน้ำมันดีเซลจะมีการนำเอาเงินจากกองทุนน้ำมันมาบริหารจัดการในลักษณะที่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงก็ดึงเงินเข้าแต่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นก็นำมาใช้ ขณะที่ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินจะดูผู้ค้ามาตรา 7 เป็นหลักซึ่งทั้งหมดนี้ยังมองว่าไม่ได้กระทบกับสัดส่วนกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
ส่วนแผนขยายการลงทุนยังคงเดินหน้าตามแผน 5 ปี ภายใต้งบลงทุน 96,000 ล้านบาท โดยมุ่งขยายพอร์ตการลงทุนในส่วนของการขับเคลื่อน (โมลิบิตี้) พลังงานอนาคต การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยในปีนี้ตั้งเป้าขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้ารถยนต์ EV ให้ได้ 90 แห่ง รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการเปิดบริการซ่อมรถยนต์ EV ใน Fit Auto
พร้อมกันนี้ OR ยังได้ขยายลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน โดยการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ OR เตรียมปิดดีลซื้อกิจการเพิ่มอีก 5 ราย ทั้งในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าบริการ เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ จากที่ผ่านมา OR ก็ได้มีการซื้อกิจการไปกว่า 13 กิจการ ใช้เงินลงทุนไปแล้วราว 9,900 ล้านบาท
ขณะที่แผนการขยายลงทุนในต่างประเทศ OR มีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยัง 100 ประเทศในปี 2030 (2573) จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 ประเทศ ซึ่งแม้ว่าจะเกิดวิกฤติพลังงานในหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ก็ยังไม่กระทบกับธุรกิจ OR โดยในปีหน้าเตรียมขยายร้านอเมซอนเพิ่มอีก 1 ประเทศ ส่วนความคืบหน้าการลงทุนขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station นั้นในขณะนี้ขยายไปแล้ว 2,080 สาขา สิ้นปี 2565 ขยายเป็น 2,130 สาขา
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเมียนมาประกาศให้ธนาคารกลางเมียนมาระงับการจ่ายหนี้ต่างประเทศนั้น OR ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา OR มีการลงทุนในเมียนมา 2 ส่วน คือ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยการก่อสร้างคลังน้ำมัน ท่าเรือ และโรงบรรจุก๊าซหุงต้มแอลพีจี ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% ส่วนนี้ก็สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ปกติ และชำระเงินได้ ส่วนที่ 2 คือการขยายสาขาคาเฟ่อเมซอนในลักษณะของมาสเตอร์แฟรนไชส์ ซึ่งมีการขยายไปแล้ว 6 สาขาไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของมาตรการการชำระเงินเพราะทั้งหมดได้มีการชำระเงินในรูปของเงินบาท