OR ปลื้ม งาน Inclusive Growth Days empowered by OR ต่อยอดสานพลังร่วมธุรกิจ

ผู้ชมทั้งหมด 1,117 

โออาร์ ปลื้ม จัดงาน Inclusive Growth Days empowered by OR สร้างพลังส่งต่อโอกาส หนุนสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน เผยมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการจาก โออาร์ สินค้าไทยเด็ด พันธมิตร สตาร์ตอัป และอื่น ๆ รวมกว่า 100 บูธ เตรียมเตรียมเปิด Ownership Centre และ Relationship Station ในสำนักงานใหญ่ ดันผนึกกำลังธุรกิจในอนาคต

ปิดฉากลงแล้ว สำหรับการจัดงาน Inclusive Growth Days empowered by OR ระหว่างวันที่ 22 – 24 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่ ชั้น 22 บางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” หรือ “Empowering All toward Inclusive Growth” กับการนำเสนออีเวนต์สำคัญที่ฉายภาพทิศทางใหม่ของการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Inclusive Growth) ในทุกมิติ

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ สะท้อนถึงพันธกิจ 4 ประการสำคัญของ โออาร์ และฉายภาพให้เห็นว่าเราเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด เข้ามาสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของเราอย่างไร ความสำเร็จของงานนี้ เห็นได้จากจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้างานสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 2 เท่า และเราได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจากพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี ตลอดจนผู้ประกอบการหน้าใหม่

สิ่งเหล่านี้ สื่อให้เห็นถึงพลังแห่งการส่งต่อโอกาส ความมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน ความสำเร็จต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย และเราได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวคิด Inclusive Growth สร้าง Impact ให้โลกเกิดความยั่งยืนได้

อย่างไรก็ตามOR เตรียมเปิด Ownership Centre และ Relationship Station ขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ โออาร์ มีทีมงานที่พร้อมต้อนรับคอยให้คำแนะนำกับธุรกิจทุกรูปแบบ ทุกขนาดที่สนใจ เพื่อการสร้างประสานความร่วมมือ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยกันต่อไป 

สำหรับงาน Inclusive Growth Days empowered by OR ได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่

1) Main Stage – The Prospect of Business Inspiration เพื่อเปิดเผยเรื่องราวอินไซต์และแรงบันดาลใจด้วยการบรรยายพิเศษและเวทีเสวนาใน 23 หัวข้อน่าสนใจ จาก 50 ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และนักธุรกิจชั้นนำในหลากหลายภาคอุตสาหกรรมของไทย        

2) Exhibition – The Prospect of Business Angles นิทรรศการพิเศษที่จะเผยมุมมองทางธุรกิจของ โออาร์ ใน 4 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพลิกโฉมธุรกิจพลังงานและการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ การตอบโจทย์ทางเลือกการใช้ชีวิตในอนาคตสำหรับทุก          ไลฟ์สไตล์ การแสวงหาโอกาสในตลาดระดับโลกผ่านหลากหลายสูตรสำเร็จเพื่อการเติบโต และเรื่องของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

3) Showcase Area – The Prospect of Business Co-creation โชว์เคสผลิตภัณฑ์ บริการ และแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ ๆ ที่พัฒนาจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ จากพันธมิตรของ โออาร์ เอสเอ็มอี และสตาร์ตอัป                

4) Ownership Center – The Prospect of Business and Goodness Integration เปิดเส้นทางในการสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตของผู้คนและสิ่งแวดล้อม

5) Relationship Station – The Prospect of Business Partnership การ เปิดพื้นที่สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ได้มีโอกาสมาพบกัน สร้างความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรกับโออาร์และพาร์ทเนอร์ ที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน

โดยในส่วนของ Main Stage นั้น ตลอด 3 วันของการจัดงานมีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารจากทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำ เข้าร่วมเสวนาและการบรรยายกันอย่างคับคั่งในหลากหลายหัวข้อ ซึ่งภายใต้ธีมหลักของการเสวนาทั้ง 5 ธีม มีประเด็นการพูดคุยที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่

ธีม Inclusive Growth โออาร์ได้เปิดประเด็นเรื่องของความท้าทายในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ทำให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนวิธีคิด การมุ่งสร้างผลกำไรเพียงอย่างเดียวเพื่อการเติบโตเพียงลำพัง ไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในระยะยาวอีกต่อไป แต่ต้องมุ่งสู่การยกระดับระบบนิเวศเพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมกัน พร้อมสร้างผลเชิงบวกโดยมีสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมาย กลายเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive ของผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ธีม Seamless Mobility ผู้บริหารองค์กรชั้นนำมากมายได้มาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องอนาคตของการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในประเด็นด้านยานยนต์ไฟฟ้าและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด เพราะการใช้พลังงานในปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้เชื้อเชื้อเพลิงฟอสซิลค่อนข้างสูง จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยายวงกว้างไปจนถึงเรื่องอุบัติภัยต่าง ๆ ที่ไม่มีใครคาดคิด รวมทั้งมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงคนรุ่นหลัง การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้นอย่างไร้รอยต่อนั้นจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำพาความเปลี่ยนแปลงแบบ Inclusive มาช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันกับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมั่นคง ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้

ธีม All Lifestyles โออาร์ เผยบทเรียนแห่งความสำเร็จพร้อมทั้งอินไซต์จากเหล่านักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหาร สุขภาพ บิวตี้ และ wellness ที่มาร่วมพูดคุยกันในหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น การบอกเล่าเรื่องราวของ “รสชาติแห่งความสุข” ในมุมมองของฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองท์ กรุ๊ป ที่เลือกทำธุรกิจอาหารด้วยพื้นฐานของการมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุก ๆ รายละเอียดของการทำงาน หรือ ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด เจ้าของแบรนด์ THANN ที่เปิดประเด็นเรื่อง wellness ที่เป็นมากกว่าเรื่องของการดูแลสุขภาพ แต่เป็นเรื่องของสภาวะที่ร่างกายและจิตใจ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย สุขภาพชีวิตสมดุล และใช้ชีวิตได้อย่างมีความหมาย ฯลฯ นี่คือตัวอย่างความสำเร็จที่ผู้บริหารแถวหน้าถ่ายทอดออกมาเป็นบทเรียนให้เราได้ฟังกัน

ธีม Global Market เป็นเรื่องของการแชร์ประสบการณ์จากเหล่าผู้บริหารในองค์กรชั้นนำมากมายที่สามารถนำพาธุรกิจไทยไปไกลสู่ตลาดโลกได้สำเร็จ โดยเราได้ฟังบทเรียนที่น่าสนใจจากหลากวงการ เช่น เส้นทางการเติบโตในวงการแฟชั่นเทคโนโลยีของแบรนด์ “โพเมโล” ที่ก้าวสู่การเป็นธุรกิจแบบ omnichannel อย่างเต็มตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เส้นทางการเติบโตต่อยอดไปได้ไกลทั่วโลกด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นของกลุ่มดุสิตว่าจะต้องสร้างแบรนด์โรงแรมของไทยให้เป็นที่รู้จักด้วยมาตรฐานสากล รวมไปถึงความกล้าที่จะไปเปิดตลาดในต่างประเทศของ โออาร์ พร้อมกับน้อมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่จะต้องไปพบเจออย่างแน่นอนในต่างประเทศ ตลอดจนการลองคิดใหม่ทำใหม่จนเกิดเป็นสิ่งใหม่ที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้น ๆ

และธีม New Innovation ซึ่ง โออาร์ พร้อมผลักดัน New Innovation หรือแนวคิดใหม่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคมโลกที่ยั่งยืน และส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถก้าวสู่มิติใหม่ สร้างตลาดใหม่ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความยั่งยืนได้ในอนาคต โดยถอดบทเรียนจากผู้บริหารชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นคมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กว่าจะเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของเมืองไทยที่ไม่ลืมความมุ่งมั่นในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองและสังคมชนบท หรือสมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Local Alike ซึ่งเปิดมุมมองใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่ต้องทำงานร่วมกับชุมชนและสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนในชุมชนอยากพัฒนาต่อ โดยใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในชุมชนและสังคมในวงกว้าง เป็นต้น