ผู้ชมทั้งหมด 228
โออาร์ คาดผลงานปี 68 โตขึ้น รับเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวฟื้น หนุนยอดขายน้ำมันเครื่องบิน เพิ่มมาร์จิ้นธุรกิจ พร้อมเร่งแผนปรับลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น จ่อปิดดีลหาพันธมิตรร่วมทุนธุรกิจใหม่ แทนยุติลงทุนเท็กซัส ชิคเก้น คาดชัดเจนกลางปี68 เล็งประกาศงบลงทุน 5ปีใหม่ กลางเดือนธ.ค.นี้ ลั่น เตรียมดำเนินคดีผู้ปล่อยข้อมูลเท็จผ่านโซเชียลสร้างความเสียหายต่อบริษัท
นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงาน Oppday Q3/2024 ของ OR เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2567 โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ OR ในปี 2568 คาดว่า จะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจ ที่คาดว่าจะขยายตัวตามสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลบวกต่อปริมาณการขายน้ำมันเครื่องบินให้เติบโตขึ้นและส่งผลดีต่อมาร์จิ้นของOR ส่วนรายได้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยOR จะพยายามรักษามาร์จิ้นให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ขณะเดียวกันOR ควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เช่น ธุรกิจกาแฟ ที่จะเข้าไปดำเนินการครบวงจร เพื่อบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงทบทวนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ โดยตัดธุรกิจที่ไม่สร้างผลประกอบการที่ดีออกไป เช่น ในช่วงไตรมาส3 ที่ผ่านมา ได้ยุติการดำเนินธุรกิจของเท็กซัส ชิคเก้น ทำให้ในปีหน้า จะไม่มีผลจากค่าใช้จ่ายพิเศษ (Extra Item)เข้ามาอีก ซึ่งในส่วนของธุรกิจ F&B ก็ยังอยู่ระหว่างทบทวนความเหมาะสมในการดำเนินธุรกิจ แต่ในระยะสั้นนี้ จะยังไม่มีการตัดธุรกิจออกเพิ่มเติม นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการราคาน้ำมัน ผ่านการจัดทำข้อมูลต่างๆที่เข้มข้นขึ้น อีกทั้งในได้นำเรื่องของดิจิตัลทรานฟอร์เมชั่นเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจด้วย
ส่วนงบลงทุนในปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลแผนการลงทุนระยะ 5 ปี (ปี2568-2572) เพื่อนำเสนอบอร์ดOR พิจารณาในช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ และคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนได้ในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้
“การหาพันธมิตรร่วมลงทุนเพื่อเสริมแกร่งให้กับธุรกิจของOR ตามกลยุทธ์ของ ปตท.นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการ และในเร็วๆนี้ ก็คาดว่า จะได้พันธมิตรที่เข้ามาทำธุรกิจทดแทนยุติการลงทุนในเท็กซัส ชิคเก้นไป คาดว่า กลางปีหน้า ดีลจะมีความชัดเจน”
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่า ผลการดำเนินงานทั้งรายได้ และกำไรจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส3 ที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
ทั้งนี้ ช่วง 9 เดือน ของปี 2567 (ข้อมูล ณ 30 ก.ย.) พบว่า OR มีสถานีบริการ PTT Station ทั้งสิ้น 2,690 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 2,279 แห่ง ในต่างประเทศ 411 แห่ง มีร้านคาเฟ่ อเมซอน อยู่ที่ 4,721 แห่ง มีสถานีชาร์จ EV Station PluZ จำนวน 1,029 แห่ง หรือ ติดตั้ง 1,962 หัวชาร์จ ครอบคลุม 77 จังหวัด และมีร้าน Convenience Store จำนวน 2,354 สาขา
ปี2567 OR ยังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เพิ่ม 100 แห่ง แต่คาดว่า จะดำเนินการได้ 90 แห่งในสิ้นปีนี้ ขณะที่ ร้านคาเฟ่ อเมซอน ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 300 แห่ง โดยในช่วงไตรมาส4 เห็นการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นมา ส่วนสถานีชาร์จ EV Station PluZ ตั้งเป้าหมายจะเปิดเพิ่ม 550 แห่ง แต่คาดว่า จะดำเนินการได้ 460 แห่งในสิ้นปีนี้
นางสาววิไลวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีข่าวปลอมระบุว่า ทางผู้บริหาร ปตท. และ OR ถูก DSI สอบธุรกรรมซื้อขาย “ไบโอดีเซล” ผิดปกติ นั้น และทางOR ได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับทราบไปแล้วนั้น ขณะนี้ OR อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆที่ปรากฎผ่านโซเชียลฯ ซึ่งหากพบว่า ข้อมูลใดเป็นผลเสียต่อบริษัทและผู้บริหาร ทางOR ก็จะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเหมาะสมต่อไป