NEX เร่งกำลังการผลิตรถเมล์ไฟฟ้า ทยอยส่งมอบ รถร่วมขสมก. 600 คันต่อเดือน

ผู้ชมทั้งหมด 856 

NEX เดินกำลังการผลิตเต็มสปีดรถยนต์ EV ออเดอร์กว่า 4,000 คัน พร้อมทยอยส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าให้เอกชนผู้รับสัมปทานเดินรถเส้นทางกรุงเทพและปริมณฑล เดือนละ 600 คัน

นายคณิสสร์ ศรีวัชรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เชิงพาณิชย์แบบครบวงจรแห่งแรกของคนไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด หรือ AAB อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA และ เน็กซ์ พอทย์ไปแล้วและวางแผนเดินหน้ากำลังในการผลิตสูงสุด 9,000 คันต่อปีนั้น ขณะนี้เน็กซ์ พอทย์ ได้เร่งกำลังการผลิตรถ EV ประเภทขนส่งสาธารณะ เพื่อเตรียมทยอยส่งมอบตามคำสั่งจองของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ในเส้นทางกรุงเทพและปริมณฑลใน ลักษณะร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)

โดยที่ผ่านมารถบัสอีวีของเน็กซ์ พอทย์ ได้ส่งมอบให้บริษัทที่ได้รับสัมปทานเดินรถเส้นทางกรุงเทพและปริมณฑลไปแล้ว 120 คัน ซึ่งนำไปวิ่งให้บริการประชาชนแล้วเป็นรถเมล์ไฟฟ้าสีน้ำเงินที่ไร้มลพิษ และในเดือน ส.ค.นี้จะมีการทยอยส่งมอบรถอย่างต่อเนื่อง โดยเน็กซ์ พอทย์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถ ซึ่งขณะนี้มีออเดอร์อยู่ประมาณ เกือบ 4,000 คัน ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ทยอยนำชิ้นส่วนเพื่อนำมาขึ้นรูปและประกอบ ก่อนจะทยอยส่งมอบให้ลูกค้าเฉลี่ยเดือนละประมาณ 600 คัน

อย่างไรก็ตามการที่เรามีฐานผลิตอยู่ในประเทศไทยทำให้ได้เปรียบคู่แข่งในทุกประตู ซึ่งที่ผ่านมาถ้าเป็นรถเชิงพาณิชย์จะมีการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งคันและจะต้องเสียภาษีอยู่ระหว่าง 20- 40% ขึ้นอยู่กับประเภทของยานยนต์ ดังนั้นการที่เน็กซ์ พอทย์มีโรงงานตั้งอยู่ในเขตฟรีโซนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI  จึงมีในส่วนของการใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบภายในประเทศหรือว่าเรียกว่า Local Content มากกว่า 40 % ขึ้นไปทำให้ไม่มีภาษีนำเข้า ขณะเดียวกันการได้รับการส่งเสริมจาก BOI ส่งผลให้สินค้าทุกชิ้นที่ขายออกไปมีกำไร หากเทียบกับคู่ต่อสู้ที่นำรถเข้ามาทั้งคันแล้วเรามองเห็นว่าได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว

นายคณิสสร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เน็กซ์ พอทย์ ยังมีความร่วมมือกับ EA ที่เป็นพันธมิตรของเน็กซ์ จึงนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาทำงานร่วมกัน โดยจุดแข็งของเน็กซ์ พอทย์ คือมีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการทำการตลาดในส่วนของรถเชิงพาณิชย์มาเป็นระยะเวลากว่า 10  ปีขึ้นไป บุคลากรมีความเชี่ยวชาญและมีโครงข่ายในการทำบริการหลังการขายที่มีความชำนาญและสมบูรณ์แบบ ขณะที่ EA ชำนาญในส่วนของการผลิต charger และส่วนของแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันทาง EA ได้ติดตั้ง charger ไปแล้วกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ถือว่าเป็นบริษัทที่มีการติดตั้ง charger ที่เยอะที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีบริการหลังการขาย  ทำให้ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อรถจากเน็กซ์ พอทย์ ไม่ต้องกังวลกับบริการหลังการขาย

“ผมพูดได้เต็มปากว่า เน็กซ์ พอยซ์ คือ ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ที่มีการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมรายแรกในประเทศไทย และทำการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาคงได้ยินกันตลอดว่ามีกลุ่มบริษัทชั้นนำในประเทศไทย พยายามเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจของยานยนต์ไฟฟ้า แต่เอาเข้าจริงมีการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมแค่ 2 ค่ายหลักๆคือค่าย mercedes-benz และค่าย NEXPOINT ที่มีการลงทุนสายผลิตเพื่อรองรับการผลิตรถไฟฟ้าและมีผลิตภัณฑ์ที่ประกอบภายในประเทศ และส่งมอบรถให้ลูกค้าได้จริง ซึ่งในส่วนของ benz จะโฟกัสรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล ส่วน NEX จะมุ่งเน้นรถเชิงพาณิชย์เป็นหลัก จึงนับได้ว่าเป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีการลงทุนจริงๆ และมีการทยอยส่งมอบสินค้าจริงให้ผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” ซีอีโอเน็กซ์กล่าว