IRPC ลั่น ธุรกิจผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ตั้งงบ 1 หมื่นล.ลงทุนปีนี้

ผู้ชมทั้งหมด 432 

IRPC ลั่น ธุรกิจผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ตั้งงบลงทุนปี 2566 ระดับ 10,000 ล้านบาทรวม M&A ลุยก่อสร้างโครงการUCF เสร็จตามแผน COD เดือน ม.ค.ปี 2567 พร้อมเพิ่มสัดส่วนการขายธุรกิจ Specialty ปีนี้แตะ 33% หนุนมาร์จิ้น หวังจีนเปิดประเทศ ดันสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้น คาด Market GIM ปีนี้ อยู่ที่ระดับ 13-14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นางสาวกัญญามาส ฤทธิเดช ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยในงาน Oppday Year End 2022 บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) IRPC วันที่ 27 ก.พ.2565 โดยระบุว่า บริษัท ได้จัดเตรียมงบลงทุนตามแผน 5 ปี อยู่ที่ 36,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบลงทุนปี 2566 ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยหลักๆจะใช้สำหรับการลงทุนโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 (Ultra Clean Fuel Project: UCF) จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จตามแผนที่จะเปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์(COD) ในช่วงม.ค. ปี 2567 ซึ่งปัจจุบัน โครงการฯมีความคืบหน้าอยู่ที่ 66% ส่วนงบลงทุนที่เหลือจะใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพและซ่อมบำรุงฝั่งปิโตรเคมี รวมถึงรองรับการลงทุนธุรกิจใหม่ เช่นอาจจะเป็นในรูปแบบ การซื้อกิจการหรือควบรวม(M&A )เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่า ภาพรวมธุรกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดปี 2565 ไปแล้ว โดยปีนี้ จีนมีนโยบายเปิดประเทศ น่าจะส่งผลให้ ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด) ธุรกิจปิโตรเคมีในปีนี้ดีขึ้น  ขณะที่สเปรดธุรกิจปิโตรเลียม ยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยโรงกลั่นจะกลับมาเดินเครื่องการผลิตที่ระดับปกติ 190-200% รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ (Specialty) อยู่ที่ 33% จากปีก่อน 22% และการขยายการลงทุนตามกลยุทธ์ New Stream ที่จะเน้นธุรกิจใหม่ๆมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเรื่องของซัพพลายใหม่ในฝั่งปิโตรเคมีที่อาจกลับมาเดินเครื่องการผลิตในปีนี้ โดยคาดว่า กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ปีนี้ จะอยู่ที่ระดับ 13-14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปี2565 อยู่ที่ระดับ 10.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนแผนการออกหุ้นกู้ในปีนี้ ก็อยู่ในเป้าหมายเพื่อรองรับการลงทุนก็อาจจะมีทั้งการกู้เงินและการออกหุ้นกู้เพิ่มเติม โดยคาดว่าในปีนี้ น่าจะเห็นการออกหุ้นกู้เพิ่มเติมได้

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในโครงการ Innopolymed ที่ผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (Medical Consumables) การก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 99% คาดว่า จะCOD ได้ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ โดยโรงงานนี้ จะมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกพีพี สปันบอนด์ (PP Spunbond) 200,000 ตันต่อปี เพื่อรับกระแสการดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงตั้งเป้าหมายมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) แตะ 25,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 และแตะ 35,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นการเติบโตจากขยายการลงทุนตามกลยุทธ์ Existing Stream และ New Stream

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 20% ภายในปี 2573 จากปีฐาน 2561 และเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2603