ผู้ชมทั้งหมด 692
IRPC คาดราคาน้ำมันดิบครึ่งปีหลัง 65 ทรงตัวในระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายดีขึ้น หนุนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่ม ยันปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นไตรมาส 4 ไม่กระทบผลการดำเนินงานหลังไตรมาส3 กลั่นน้ำมันชดเชย
นางสาวกัญญามาส ฤทธิเดช ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มภาวะตลาดน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด – 19 หลายประเทศคลีคลายดีขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และเป็นช่วงฤดูหนาวจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันยังต้องติดตาม กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนส.ค. 65 ได้ตกลงเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ก.ย. 65 เพียง 1 แสนบาร์เรลต่อวัน ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากว่าจะกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่างไร
สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีคาดว่าความต้องการใช้จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าความต้องการสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสและ ปีใหม่ อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตใหม่จากจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวนมากหลังจากสถานการณ์โควิด – 19 ในจีนเริ่มคลี่คลาย ขณะที่โรงงานปิโตรเคมีในมาเลเซียที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 จะทำให้อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของ IRPC ในช่วงไตรมาส 4/2565 นั้นเป็นไปตามแผนการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ทุก 5 ปี อยู่แล้ว โดยมีแผนจะหยุดซ่อมในช่วงเดือนกันยายนนี้ แต่จะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ IRPC เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3/2565 ได้เดินเครื่องผลิตสต๊อกผลิตภัณฑ์ไว้จำนวนมากเพียงพอรองรับกำลังการผลิตที่หายไปในช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ในระดับ 130,000 บาร์เรลต่อวัน