ผู้ชมทั้งหมด 606
IEA ลงนามร่วมมือพัฒนาพลังงานลมเพิ่ม 1 โครงการ “เซกองวินด์ฟาร์ม” 1,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในสปป.ลาวเป็น 1,600 เมกะวัตต์
นางสาวภราไดย สืบมา ประธาน บริษัท อิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเชีย ลิมิเต็ด (IEA) ได้ลงนามร่วมกับตัวแทนจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับความร่วมมือในการพัฒนาและการดำเนินการโครงการวินด์ฟาร์มในจังหวัดเซกอง (เซกองวินด์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ พัฒนาโดยบริษัท อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม จำกัด (IES) บริษัทในเครือของ IEA และยังเป็นผู้พัฒนาโครงการมอนซูนวินด์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ “เซกองวินด์ฟาร์ม” ปัจจุบันโครงการมอนซูนฯ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนามเรียบร้อยแล้ว
นางสาวภราไดย เปิดเผยว่า โครงการเซกองวินด์ฟาร์ม ในสปป.ลาว อยู่พื้นที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ทรัพยากรลมที่มีศักยภาพ และการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากรัฐบาล สปป.ลาว บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า โครงการเซกองวินด์ฟาร์มจะสามารถดำเนินการโครงการได้อย่างรวดเร็วในการผลิตพลังงานสะอาดให้แก่อาเซียนได้
โครงการเซกองวินด์ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ จังหวัดเซกอง สปป.ลาว ในบริเวณเดียวกันกับโครงการมอนซูนวินฟาร์มซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาก่อสร้างหลังจากเซนตสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามเรียบร้อยแล้ว โครงการเซกองวินด์ฟาร์มขนาดพื้นที่ประมาณ 506,250 ไร่ ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลค่าลมมาตลอด10 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2567
สำหรับโครงการเซกองวินด์ฟาร์ม และโครงการมอนซูนวินด์ฟาร์มจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 1,600 เมกะวัตต์ และเป็นโครงการที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 90 ล้านตันตลอดอายุโครงการ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมบทบาทสำคัญของ สปป.ลาว ที่กำหนดวิสัยทัศน์หลักในการพัฒนาประเทศให้ไปสู่การเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” ด้วย
“เราทราบเป็นอย่างดีว่าพลังงานลมเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่สำคัญของ สปป.ลาว และโครงการนี้จะแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความเป็นเลิศทางด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกของ สปป.ลาว เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งกับ สปป.ลาว ในการต่อสู้กับสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก และยังคงมุ่งมั่นที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นโดยรอบโครงการเพื่อความยั่งยืน” นางสาวภราไดย กล่าว