ผู้ชมทั้งหมด 844
HMC Polymers ชูวิสัยทัศน์ “Endless Possibilities Begins” จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ที่ไม่สิ้นสุด ลุยขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) สู่สายการผลิตที่ 4 ทะลุ 1 ล้านตันต่อปี พร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ไตรมาส 4ปีนี้ สูงติดอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสิริเดช คุ้มวงศ์ดี ประธานบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน หรือ PP รายแรกและใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริการ เพื่อสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงานอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้แนวคิด “Endless Possibilities Begin” จุดเริ่มต้นความเป็นไปได้…ที่ไม่สิ้นสุด เพื่อขับเคลื่อนการผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง
พร้อมผสานความร่วมมือกับผู้ถือหุ้น คือ “LyondellBasell” ผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก นำเทคโนโลยีอันทันสมัยและล้ำหน้าที่สุดในการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพ (Differentiated) ทำให้เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ที่ผลิตโดย HMC Polymers นั้น เป็นเม็ดพลาสติกระดับพรีเมียมที่มีความแตกต่างและมีคุณลักษณะเฉพาะตัว โดยเฉพาะความแข็งแกร่ง ทนทานทั้งความร้อน ความเย็น หรือแม้แต่สารเคมี ทั้งยังมีความใส เงางาม ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ง่าย ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ต่อยอดนวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์แก่ทุกชีวิตและสังคม
นายสิริเดช กล่าวว่า บริษัท พร้อมขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) สู่ล้านตันต่อปี ตั้งเป้า Zero Flare ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และสร้างงานให้ชุมชนจากความต้องการเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง HMC Polymers จึงดำเนินการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) จากเดิม 3 สายการผลิต สู่สายการผลิตที่ 4 ซึ่งพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตจากเดิม 810,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,060,000 ตันต่อปี สูงเป็นอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เทคโนโลยี Spherizone ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ LyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ HMC Polymers
อีกทั้ง ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยดำเนินการก่อสร้างหอเผาระดับพื้น (Ground Flare) เพื่อลดมลพิษจากการเผาไหม้ที่หอเผาสูง (Elevated Flare) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ควบคุมควันดำได้เป็นอย่างดี รวมถึงลดเสียงและแสง โดยเป้าหมายต่อไปของ HMC Polymers คือ “Zero Flare” ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลก อีกทั้งในระหว่างการก่อสร้างและหลังการดำเนินการเชิงพาณิชย์ HMC Polymers ยังมีส่วนช่วยสร้างงานให้ชุมชนโดยรอบ รวมถึงการผลิตแรงงานคุณภาพป้อนสู่ตลาดอีกด้วย
นางสาวอังคณี สุนทรสวัสดิ์ รองประธาน สายการเงิน บัญชีและงานสนับสนุนองค์กร HMC Polymers กล่าวว่า แผนกลยุทธ์การเงินของ HMC Polymers จะเห็นว่า ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) มีการฟื้นตัวของผลประกอบการที่แข็งแกร่งท่ามกลางการแกว่งตัวเป็นวัฏจักรของธุรกิจปิโตรเคมี และที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพ (Differentiated) ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าตลาด ทำให้ EBITDA Margin มีอัตราร้อยละ 15 ในปี 2564 และสูงกว่าปี 2563 ถึงร้อยละ 60 ส่งผลให้เกิดเสถียรภาพการเงินที่มั่นคง ด้วยสัดส่วนของทุนที่เข้มแข็ง และอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ที่ต่ำเพียง 2.1 เท่า สะท้อนไปที่อันดับเครดิตของบริษัทในระดับ A- ทั้งนี้ มูลค่าโครงการ CAPEX โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทำงาน ความสม่ำเสมอของกระบวนการผลิต กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร
สำหรับ เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ของ HMC Polymers นั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตและคิดค้นนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์โดยรวมของสังคมเสมอมา ได้แก่การเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ
นวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จากการเลือกใช้เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) คุณภาพสูง เกรดการแพทย์ สำหรับการผลิตเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ขวดน้ำเกลือ หลอดเข็มฉีดยา ส่วนประกอบหน้ากากอนามัย และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานคุณภาพสูง
นวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) นั้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตยานยนต์ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร เพราะมีความทนทานต่ออุณหภูมิและรอยขีดข่วน ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบา ดังนั้นจึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้อีกด้วย
นวัตกรรมล้ำหน้าของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ภายในบ้าน ด้วยคุณสมบัติของเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) ที่มีความเหนียว ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี และมีความต้านทานต่อสารเคมีสูง สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูงต่ำของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
และ นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร จึงจำเป็นต้องเลือกใช้เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) คุณภาพสูง ที่มีความทนทาน สามารถเข้าช่องแข็งและไมโครเวฟได้ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงรีไซเคิลได้ เพื่อช่วยลดการเกิดขยะ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม