ผู้ชมทั้งหมด 1,362
GULF โควิดระบาดยันไร้ผลกระทบก่อสร้างโรงไฟฟ้า IPP ที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง พร้อมจ่ายไฟฟ้าตามแผน เริ่ม 1 มี.ค. 64 จำนวน 625 เมกะวัตต์ ต.ค. 64 อีก 625 เมกะวัตต์ ขณะที่รายได้ปี 64 คาดเติบโตระดับ 5 หมื่นล้าน
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า จากกรณีที่จ.ชลบุรี และจ.ระยองประกาศยกระดับเป็นพื้นที่ควบคุมระดับสูงเพื่อป้องกันแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ขนาดกำลังการผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และจ.ระยอง เนื่องจากมีบุคลากรประจำอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว
ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะยังคงสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามแผน ซึ่งจะเริ่มทยอย COD โรงไฟฟ้า GSRC อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 2,500 เมกะวัตต์ก่อน แบ่งการ COD ในยูนิตที่ 1 จำนวน 625 เมกะวัตต์ในวันที่ 1 มี.ค. 64 และยูนิตที่ 2 จำนวน 625 เมกะวัตต์ COD ในเดือน ต.ค. 64 รวมเป็น 1,250 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือของ GSRC อีก 1,250 เมกะวัตต์ (จำนวน 4 ยูนิต) COD ในปี 65 ขณะที่โรงไฟฟ้า GPD จ.ระยอง กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 66-67
ขณะที่ผลประกอบการปี 64 คาดว่ารายได้จะอยู่ในระดับ 54,000 – 55,000 ล้านบาท เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากการ COD โครงการโรงไฟฟ้า IPP นอกจากนี้ ยังทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Makong ในประเทศเวียดนามในเดือน มี.ค. 64 ราว 30 เมกะวัตต์ และในเดือน ต.ค. 64 อีก 98 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิต 128 เมกะวัตต์ รวมถึงจะได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการ BKR2 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี โดย GULF มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 50%