GPSC ทุ่ม 3.9 พันลบ.ก่อสร้างโรงไฟฟ้าโกลว์ SPP2

ผู้ชมทั้งหมด 1,270 

GPSC เร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้า โกลว์ เอสพีพี 2 ขนาดกำลังการผลิต 114 เมกะวัตต์  ไอน้ำ 230 ตันต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการ 3.9 พันล้านบาท หลังบอร์ดบีโอไอไฟเขียว ส่งเสริมการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม พื้นที่นิคมฯ มาบตาพุด รองรับความต้องใช้ไฟฟ้าและสาธาณูปการขยายตัวใน EEC  พร้อมป้อนไฟฟ้าเข้าระบบไตรมาส2 ปี 2567

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม  ปตท. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าและไอน้ำระบบโคเจเนอเรชั่น  (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง  ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 114  เมกะวัตต์ และผลิตไอน้ำ 230 ตันต่อชั่วโมง ของ บริษัท โกลว์ เอสพีพี 2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ GPSC ถือหุ้น 100% มูลค่าการลงทุนรวม 3,986 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2567 นับเป็นหน่วยผลิตที่จะตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และการขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

สำหรับโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นโครงการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าของประเทศให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อมุ่งสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

โดยแผนการลงทุนในโครงการ โกลว์ เอสพีพี 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำป้อนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม  โดยเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาทดแทนโรงไฟฟ้าเก่า (SPP Replacement Project) ในพื้นที่เดิม ซึ่งจะครบอายุสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer: SPP) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในเดือนมีนาคมและเมษายน 2567 ตามลำดับ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้เชื้อเพลิงสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้ายังถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งการพัฒนาโรงไฟฟ้าบนพื้นที่เดิม นับเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านคุณภาพของกระแสไฟฟ้า ไอน้ำ ที่จัดส่งให้ลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นไปตามสัญญาการส่งมอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการด้านพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของกลุ่ม GPSC