ผู้ชมทั้งหมด 623
GGC ชี้แจงความคืบหน้าดำเนินคดีวัตถุดิบคงคลังสูญหาย เกิดความเสียหายมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท หลายคดีศาลได้ตัดสินว่าอดีตผู้บริหารและคู่ค้าร่วมกันกระทำความผิดจริง สั่งลงโทษจำคุกพร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัท ส่วนคดีที่ยังเหลือ อยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
รายงานข่าวจากบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยการดำเนินคดีและความคืบหน้าของคดีความเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังของสูญหาย ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ตามที่ GGC ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ GGC ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนภายใน มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยได้ตัดสินให้ผู้บริหารและพนักงาน ที่เกี่ยวข้องพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และแจ้งความดำเนินคดีผู้บริหาร พนักงาน และคู่ค้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
อีกทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ยังได้กล่าวโทษอดีตกรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร GGC 2 ราย ได้แก่ (1) นายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ ขณะเกิดเหตุ (ระหว่างปี 2557 -2561) เป็นกรรมการผู้จัดการ และ (2) นายวัลลภ เทียนทอง ขณะเกิดเหตุเป็นผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการตลาด การขาย และจัดซื้อวัตถุดิบ กรณีเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียนและในบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นการทุจริตจนเป็นเหตุให้ GGC ได้รับความเสียหาย
โดยได้กระทำผิดพร้อมพวกอีก 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ขายวัตถุดิบ ได้แก่ (3) บริษัท อนัตตา กรีน จำกัด (4) นายพลลภัตม์ ศรีวิศาลวงษ์ (5) บริษัท อีสานพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์ม จำกัด (6) บริษัท ยูนิตี้ ปาล์ม ออยล์ จำกัด (7) นายบรม เอ่งฉ้วน (8) บริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออยล์ จำกัด (9) นางธนิภา พวงจำปา (10) บริษัท โอ พีจีเทค จำกัด และ (11) นายเศรษฐ์ฐ พัฒนมาศ กรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทฯ ซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขาย โดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน แต่กลับลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทฯ ว่าได้รับวัตถุดิบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง อันทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว GGC ในฐานะผู้เสียหาย ได้ดำเนินการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับหลักการกำกับกิจการที่ดีของ ก.ล.ต. อีกทั้งยังได้ให้ข้อมูลและชี้แจงต่อ ก.ล.ต. และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) โดยหน่วยงานทั้งสองได้รับทราบข้อมูลการชี้แจงเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อปลายปี 2565 ซึ่ง GGC ก็ยังคงติดตาม เร่งรัดการดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญากับอดีตผู้บริหาร และคู่ค้าทุกรายมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ขณะนี้คดีต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก หลายคดีศาลตัดสินถึงที่สุดแล้ว โดยตัดสินว่าอดีตผู้บริหารและคู่ค้าร่วมกันกระทำความผิดจริง และตัดสินลงโทษจำคุกพร้อมกับให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ GGC ส่วนคดีที่เหลืออยู่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ GGC ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามมาตรฐานสากล รวมทั้งจะยังคงดำเนินคดีต่างๆ ที่ค้างอยู่อย่างต่อเนื่อง