EGCOไตรมาส2กำไร2,700ล้านรุกธุรกิจSmart Energy Solution

ผู้ชมทั้งหมด 675 

EGCO โชว์ไตรมาส 2/64 กำไรจากการดำเนินงาน 2,758 ล้านบาท พร้อมจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ ร่วมทุนกลุ่ม กฟผ. นำ “อินโนพาวเวอร์” ลุยธุรกิจ Smart Energy Solution เต็มรูปแบบ

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO (เอ็กโก กรุ๊ป) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 การดำเนินธุรกิจนับว่ามีความท้าทายมาก ทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจากเทคโนโลยีดิสรัปชัน แต่บริษัทก็สามารถขยายการลงทุนใหม่ได้สำเร็จ                 

โดยสามารถไปปักธงในสหรัฐอเมริกา ด้วยการลงทุนในโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งได้ปิดดีล เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ในขณะเดียวกัน ยังสามารถขยายการลงทุนสู่ธุรกิจเชื้อเพลิง โดยได้รับมติเห็นชอบการออกใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper License) 200,380 ตันต่อปี จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้ดำเนินไปได้ตามแผนงาน

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2564 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) 2,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2563

โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพาจู และโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูราในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 4,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,510 ล้านบาท ลดลง 3,565 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 2,095 ล้านบาท ลดลง 2,567 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกระทบทางบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาทจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท

สำหรับทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 2564 เอ็กโก กรุ๊ป กำลังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและระบบสาธารณูปโภคเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง และการนำเข้า LNG ตามที่ได้รับใบอนุญาตจากกกพ.

รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจ Smart Energy Solutionเพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนในบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม กฟผ. เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve โดยเอ็กโก กรุ๊ป จะเน้นการต่อยอดทางธุรกิจของเทคโนโลยีด้านไมโครกริด ด้านระบบกักเก็บพลังงาน และด้านยานยนต์ไฟฟ้า

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล “หยุนหลิน” ในไต้หวัน มีความคืบหน้า 69% และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “น้ำเทิน 1” ใน สปป.ลาว มีความคืบหน้า 89% ส่วนโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความคืบหน้า 85% ในขณะที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ

“เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยมุ่งต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลในพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านในอุตสาหกรรมพลังงานทำให้มั่นใจได้ว่าเอ็กโก กรุ๊ป จะสามารถเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”นายเทพรัตน์ กล่าว