ผู้ชมทั้งหมด 1,185
EA ลุยธุรกิจ “ยานยนต์ไฟฟ้า” เต็มสปีด เตรียมส่งมอบรถบัสไฟฟ้ากลางปี 64 จำนวน 120 คัน และจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีรวมประมาณ 500 คัน คาดโรงงานประกอบรถบัส “AAB” เริ่มเดินเครื่องผลิตใน Q3/64
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่าบริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ตามแผนที่วางไว้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในช่วงกลางปี บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบรถบัสไฟฟ้า จำนวน 120 คัน และจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีนี้รวมประมาณ 500 คัน ซึ่งในระยะแรก บริษัทฯ ได้ใช้บุคลากรของ บริษัท ไมน์โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จํากัด และบริษัทในกลุ่ม NEX ในการประกอบรถบัสไฟฟ้า และเมื่อโรงงาน AAB ก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจะเริ่มผลิตรถบัสในล็อตถัดไป
ทั้งนี้โครงการรถบัสไฟฟ้าตามแผนกลยุทธ์ในการขยายไปยังธุรกิจรถบัสโดยสาร ผ่านพันธมิตร บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท และถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย อีเอ โมบิลีตี โฮลดิง จำกัด (EMH)
รวมทั้งยังได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ในสัดส่วนประมาณ 40% ผ่าน EMH ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ และการอัดประจุไฟฟ้าที่พัฒนาจากกลุ่ม EA เพื่อสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบัสไฟฟ้าได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจำหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย
โดยโรงงานของ AAB ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่การผลิตของโรงงานประมาณ 55,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร โดยมีกำลังการผลิต 3,000-5,000 คันต่อปี สามารถรองรับการผลิตรถได้หลายประเภทเช่น รถบัส, รถบรรทุก, รถตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,750 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ มาประกอบร่วมกับชิ้นส่วนสำคัญที่ออกแบบและผลิตในประเทศ คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส3/2564
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากโครงการลงทุนใหม่ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้บริษัทฯจะเน้นให้ความสำคัญกับการเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์อีวี เพื่อการโดยสารสาธารณะ”นายอมร กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ATT) ระยะที่ 1 ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันยังเดินหน้าได้ตามแผน โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ คาดว่าโรงงานจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงกลางปี 2564 โดยระยะแรกจะจำหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า
ส่วนการขยายสถานีประจุไฟฟ้าได้ดำเนินการติดตั้งอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเกือบ 500 สถานี มีหัวชาร์จมากกว่า 1,600 หัว โดยมีตั้งแต่ระบบธรรมดา หรือ AC Charger ไปจนถึงระบบชาร์จเร็วและทันสมัยที่สุด หรือ DC Super-Fast Charge ที่ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที และบริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนเปิดรับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ประมาณ 6,100 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงาน สัดส่วน 46% , ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า 25% , ธุรกิจแบตเตอร์รี่ 20% , ธุรกิจสถานีชาร์จ 7 % และ อีก 2% สำหรับลงทุนโครงการใหม่ ส่วนธุรกิจเดิมทั้งธุรกิจไบโอดีเซล & PCM และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนส่วนใหญ่ นำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น รวมถึงมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย