BANPU มั่นใจปีนี้โตตามทิศทางราคาพลังงาน เล็งปิดดีลเหมืองแร่นิกเกิลในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย

ผู้ชมทั้งหมด 1,170 

BANPU คาดผลงานปีนี้จะเติบโตตามทิศทางราคาพลังงาน การขยายการลงทุนของธุรกิจไฟฟ้า เทคโนโลยีพลังงาน ยันรัสเซีย-ยูเครนไม่กระทบ พร้อมเล็งปิดดีลเหมืองแร่นิกเกิลในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวภายในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีตามการเติบโตของราคาพลังงานทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินที่เติบโตขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ ส่งผลต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการผลิตไฟฟ้า และภาคอุตสาหกรรม 

โดยปัจจุบันราคาถ่านหินในตลาดโลกในระยะสั้นนั้นทะลุ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งกำลังการผลิตถ่านหินในปีนี้ยังคงกำลังการผลิตที่ 36 ล้านตัน ภายใต้นโยบาย Greener & Smarter  ไม่ได้เพิ่มสัดส่วนที่เป็นถ่านหิน แต่ว่าจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามในระยะยาวราคาถ่านหินคาดว่าจะปรับตัวลงมาในระดับที่เหมาะสม

ธุรกิจก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา มีราคาขายท้องถิ่นเฉลี่ยที่ 4.7 เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต (Mcf) การผลิตก๊าซอยู่ที่ระดับ 700 MMcfd โดยธุรกิจแหล่งพลังงานกลุ่มบ้านปูยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ นอกจากนี้ก็มองโอกาสเข้าไปลงทุนในเหมืองแร่นิกเกิล (Nickel) ในประเทศออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย เพื่อต่อยอดในธุรกิจแบตเตอรี่ของกลุ่มบ้านปู  

ส่วนการซื้อขายถ่ายหินล่วงหน้าในปีนี้มีการซื้อขายล่วงหน้าเพียง 2% ส่วนใหญ่จะปล่อยไปตามกลไกลตลาด ส่วนก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ซื้อขายในตลาดล่วงหน้าในสัดส่วนที่เหมาะสมประมาณ 50% ก็เป็นไปตามนโยบาย ซึ่งการซื้อขายล่วงหน้าก็จะดูตามภาวะตลาด ส่วนการทำสงครามกันระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับบ้านปู แต่มองหาโอกาสมากว่า ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบกับบ้านปูเล็กน้อยในแง่ของต้นทุนการผลิต แต่บ้านปูก็พยายามลดการใช้น้ำมันลงแล้ว

ธุรกิจไฟฟ้า-เทคโนโลยีพลังงานช่วยหนุน

นอกจากนี้แล้วผลการดำเนินงานในปีนี้ยังเติบโตตามการขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ก็มีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือราว 4,142 เมกะวัตต์ และมีแผนจะขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐเพิ่มเติม รวมถึงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนไม่ว่าจะเป็นโซลาร์ฟาร์มในประเทศเพื่อนบ้านก็จะขยายเพิ่มเติม

ขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานของ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ก็มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตโซลาร์รูฟท็อป และโซลาร์ลอยน้ำอยู่ที่ 99 เมกะวัตต์ เป้าหมายปี 2025 อยู่ที่ 500 เมกะวัตต์ ธุรกิจแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน โดยในปี 2025 มีเป้าหมายเติบโต ที่ 3.0 GWh จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.0 GWh และก็อยู่ระหว่างการศึกษาขยายการลงทุนเพิ่มเติมกับพันธมิตรรายอื่นๆ อีก

ส่วนธุรกิจ E-MOBILITY แพลตฟอร์มให้บริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจรรายแรกของไทย ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการแพลตฟอร์มอยู่ที่ 2,100 ราย โดยตั้งเป้าหมายเพิ่ม 200 เท่า เป็น 430,000 รายภายในปี 2025 ปัจจุบันมีรถให้เช่าอยู่ราว 229 คัน มีสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 102 แห่ง ธุรกิจการจัดการใช้พลังงานปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ราว 20 ราย มีเป้าหมาย 30 ราย ส่วนธุรกิจ Energy Trading มีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยปัจจุบันมีสัญญาอยู่ในมือ 712 GWh ซึ่งใกล้ถึงเป้าหมายที่วางไว้แล้ว 1,000 GWh ในปี 2025