ผู้ชมทั้งหมด 699
บี.กริม เพาเวอร์ เดินเครื่อง COD โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แหลมฉบัง 1 กำลังผลิต 140 เมกะวัตต์ ลุยขายไฟฟ้าให้ กฟผ. และกลุ่มอุตสาหกรรม รองรับ EEC เดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่องตามเป้าปีนี้เพิ่มอีก 1,000 MW
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แหลมฉบัง1 กำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์ ของ BGRIM เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ภายใต้รูปแบบโรงไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรม (SPP) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 103 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แหลมฉบัง 1 ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยในส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เหลือนั้นได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวกับลูกค้าอุตสาหกรรมภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อาทิ กลุ่มยานยนต์ ยางรถยนต์ บรรจุภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้ได้รับการสนับสนุนไฟฟ้าและไอน้ำที่มีเสถียรภาพในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แหลมฉบัง 1 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม (SPP Replacement) ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นโครงการที่ 1 จากทั้งหมด 5 โครงการ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 700 เมกะวัตต์ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง คาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม จะช่วยลดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยลงจากเดิม 15%
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการลงทุนจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ตั้งเป้าขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงร่วมทุนกับพันธมิตรต่าง ๆ โดยวางงบลงทุนทั้งหมดประมาณ 140,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุน 5 ปี เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ตามแผนในปัจจุบัน และโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายโครงการทั้งที่เป็นโครงการใหม่ (กรีนฟิลด์) และการซื้อกิจการ (M&A) โดยในปีนี้คาดว่าจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และมีลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ที่ซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 55 เมกะวัตต์
สำหรับเป้าหมายระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดยมองเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในไทย เอเชีย รวมไปถึงยุโรป และสหรัฐอเมริกา พร้อมก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ส่วนเป้าหมายระยะยาวของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่สำคัญ คือเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593)