BGRIM ทุ่ม 3.99 ล.ดอลลาร์ฯ รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป 33.7 MW ในตะวันออกกลาง

ผู้ชมทั้งหมด 364 

“บี.กริม เพาเวอร์” ทุ่ม 3.39 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้น 40% ใน Three EightSix Holdings Ltd ลุยลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา 33.7 เมกะวัตต์ ในUAE ซาอุดีอาระเบีย และบาห์เรน

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัท ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 3.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 40% ที่ออกโดย ThreeEightSix Holdings Ltd. ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่มุ่งเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาดที่มากขึ้นของภูมิภาค

การทุ่มทุนครั้งนี้เกิดจากการเล็งเห็นศักยภาพในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของตะวันออกกลาง ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการส่งเสริมพลังงานสะอาดในหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่มีนโยบายเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนจาก 3.7 กิกะวัตต์ในปี 2566 เป็น 19.8 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 (ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เช่นเดียวกับประเทศซาอุดิอาระเบียที่มีนโยบายเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนจากต่ำกว่า 1 กิกะวัตต์ในปี 2565 เป็น 58 กิกะวัตต์ในปี 2573 (ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนของกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย) นอกจากนี้ที่น่าจับตาคือประเทศบาห์เรน ถึงแม้จะเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่ก็มีนโยบายพลังงานหมุนเวียนที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 710 เมกะวัตต์ภายในปี 2578 (ข้อมูลจากหน่วยงานพลังงานที่ยั่งยืนของบาห์เรน)

ทั้งนี้ ThreeEightSix Holdings Ltd. มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาและข้อตกลงการขายพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้ารวม 33.7 เมกะวัตต์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และประเทศบาห์เรน แบ่งออกเป็นโครงการที่กำลังดำเนินการ 5 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 4.1 เมกะวัตต์ และโครงการซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างอีก 10 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 29.6 เมกะวัตต์ โดยทั้งหมดมีเป้าหมายดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปี 2567-2568 ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการการใช้พลังงานหมุนเวียนที่มากขึ้น และนับเป็นการลงทุนครั้งใหม่ของ บี.กริม เพาเวอร์ ในตลาดพลังงานสะอาดของภูมิภาคตะวันออกกลางผ่านบริษัทร่วมค้า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคต