ผู้ชมทั้งหมด 1,554
BGRIM เตรียมจับมือ AMATA-PTT-GPSC ร่วมลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมยางกุ้งในประเทศเมียนมา คาดมีความชัดเจนต้นปี 64 พร้อมลุยขยายธุรกิจไฟฟ้าเต็มพิกัดลุยโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในเวียดนาม 8,000 เมกะวัตต์ วางเป้าหมายยอดขายรวม 1.5 แสนล้านบาทในปี 71 ขณะปี 63 การันตียอดขายรวมปี 63 กว่า 60,000 ล้านบาท
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน กลุ่ม บี.กริม เปิดเผยว่า บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เตรียมร่วมลงทุนกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในโครงการลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเมียนมา ภายใต้ชื่อนิคมอุตสาหกรรม Yangon Amata Smart and Eco City Limited (YASEC) เมืองย่างกุ้ง
ทั้งนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกันว่าจะสามารถร่วมลงทุนกันในส่วนใดได้บ้าง ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน คาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องรายละเอียดการลงทุนประมาณต้นปี 64 อย่างไรก็ตามในเบื้อต้น BGRIM มีความสนใจลงทุนในระบบ สาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบ Smart City และการผลิตไอน้ำ
ส่วนภาพรวมผลประกอบการของกลุ่ม บี.กริม ตั้งเป้าในปี 71 ซึ่งจะเป็นปีที่กลุ่ม บี.กริม ครบรอบ 150 ปีนั้นจะสร้างยอดขายรวมให้เติบโตในระดับ 150,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 63 คาดว่ายอดขายรวมของกลุ่ม บี.กริม จะมียอดขายอยู่ในระดับ 60,000 ล้านบาท โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ายังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะช่วยให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าอยู่ในระดับ 70% ที่เหลือเป็นธุรกิจอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์การแพทย์ อุตสาหกรรมยา เป็นต้น
สำหรับธุรกิจไฟฟ้านั้น BGRIM มองหาโอกาสขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย อาทิ เช่น ในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สปป.ลาว ไทย เกาหลีใต้ เป็นต้น โดยก่อนหน้านั้น BGRIM และ ปิโตรเวียดนาม เพาเวอร์ ลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาและพัฒนาสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ขนาด 3,000 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า LNG ที่ BGRIM ศึกษาเองอีก 3,000 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจากประเทศสหรัฐอเมริการในการพัฒนาโรงไฟฟ้า LNG ขนาดกำลังการผลิตราว 2,000 เมกะวัตต์อีกด้วย คาดว่าจะเริ่มทยอยเห็นความชัดเจนในการลงทุนในปี 64
ส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศมาเลเซีย ขนาดกำลังการผลิต 200-250 เมกะวัตต์ ก็มีการเจรจากับพันธมิตรต่อเนื่องก็คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 64 ส่วนในประเทศฟิลิปปินส์ก็ให้ความสนใจโครงการโซลาร์รูฟท็อป โซลาร์ฟาร์ม ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์นั้นมีศักยภาพรวมกันกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน BGRIM ได้เริ่มลงทุนโซลาร์รูฟท็อปในฟิลิปปินส์แล้ว 6 เมกะวัตต์
พร้อมกันนี้ BGRIM ยังจะมุ่งเน้นการลงทุนพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ (Energy Storage :ESS) เพื่อรองรับการเปลี่ยนในอนาคต พร้อมทั้งยังได้ให้ความสนใจพัฒนาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงไร้มลพิษมาจากสาหร่าย อยู่ระหว่างพูดคุยกับการไฟฟ้าประเทศเกาหลี (KEPCO) ซึ่งเป็นพันธมิตรเดิม คาดมีความชัดเจนในเดือน ก.พ. 64