ผู้ชมทั้งหมด 175
BEM โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก กำไรสุทธิ 2,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11% ขณะที่ไตรมาส 3 โต 10% ผู้โดยสารสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันทำงานมากกว่า 5 แสนเที่ยว
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 ว่า จากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ยในวันทำงานมากกว่า 5 แสนเที่ยวนั้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 จำนวน 1,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 97 ล้านบาท คิดเป็น 10%
โดยรายได้จากการให้บริการของ 3 ธุรกิจหลักมีจำนวน 4,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา 183 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ประกอบด้วยรายได้จากธุรกิจทางพิเศษ จำนวน 2,275 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจระบบรางหรือรถไฟฟ้า MRT จำนวน 1,782 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์จำนวน 308 ล้านบาท ขณะเดียวกันผลประกอบการของงวด 9 เดือน ปี 2567 ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของ BEM อย่างชัดเจน ด้วยกำไรสุทธิ 2,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 297 ล้านบาท หรือ 11%
สำหรับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ อาทิ การว่าจ้างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK จัดหาขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเติมสำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 21 ขบวน พร้อมปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง วงเงินรวม 6,800 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากการเปิดให้บริการของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันออกในปี 2571
การออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งที่ 2/2567 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีมูลค่าเสนอขายรวม 7,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีด้วยยอดจอง 1.5 เท่า อีกทั้งหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ A- ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (CALO) ระดับดีเด่น สาขาบริการ ประจำปี 2567 ด้วย
ทั้งนี้ BEM จะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจอย่างเข้มแข็ง ด้วยความพร้อมและความมุ่งมั่นในการส่งมอบการบริการคมนาคมขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน