ผู้ชมทั้งหมด 928
BCP ลุ้นผลงานไตรมาส 2/64 คาดมีกำไรสต๊อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 64 มั่นใจผลประกอบการดีกว่าปี63 หลังกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นเริ่มฟื้นตัว รับปัจจัยจากยุโรป สหรัฐฯ จีน ผ่อนคลายล็อกดาวน์ หนุนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่ม คาดยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มเติบโตใกล้เคียง 360 ล้านลิตร
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า โน้มแนวผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 คงต้องลุ้นยอดขายน้ำมันในช่วงระหว่างเดือน เมษายน – พฤษภาคม 2564 ว่าจะมียอดขายเติบโตอย่างไร ซึ่งยอดขายในช่วงเดือนดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการทำงานที่บ้าน (Work from home) หรือไม่อย่างไร แต่คาดว่าในไตรมาส 2/2564 จะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจุบันก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 ก็มั่นใจว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2563 ที่ขาดทุนสุทธิ 6,967 ล้านบาท และแนวโน้มก็คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2562 อีกด้วยที่มีกำไรสุทธิ 1,731 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีที่ไม่มีโควิด-19 ระบาด โดยในไตรมาส 1/2564 BCP มีกำไรสุทธิ 2,283 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าทั้งปี 2562 และ 2563 แล้ว นอกจากนี้แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันดิบก็คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายจากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศในกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐอเมริกา และประจีน
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้ผลประกอบการเติบโต โดยในปีนี้ BCP ยังคงประเมินราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในระดับ 60-62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในประเทศไทยยังคงต้องลุ้นกันต่อไปคาดว่าการระบาดระลอกใหม่นี้จะยืดเยื้อนานกว่าทุกรอบที่ผ่านมา ซึ่งในเดือน มิถุนายน 2564 รัฐบาลรับมอบวัคซีนป้องกันโควิด – 19 เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้การฉีดวัคซีนในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ค่าการกลั่นคาดว่าจะทรวงตัวอยู่ในระดับ 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากกลุ่มโอเปก และประเทศพันธมิตรก็มีการควบคุมการผลิตได้ดี ส่วนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ยังคงเฉลี่ยในระดับสูง ขณะที่กำลังการกลั่นของ BCP ตั้งเป้าจะกลับมากลั่นเต็มกำลังการผลิตที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากหยุดซ่อมบำรุงไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 – 25 มีนาคม 2564
ขณะเดียวกันทางโรงกลั่นฯ พยายามบริหารจัดการการกลั่นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หลังจากยังไม่สามารถกลั่นน้ำมันอากาศยาน (Jet) ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับมาเพิ่มกำลังผลิต UCO (Unconverted Oil) ทดแทนเพื่อส่งออกทดแทนน้ำมัน Jet และได้ปรับการผลิต UCO เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 เท่า หรือ มีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของผลิตภัณฑ์ นับเป็นพระเอกในปีนี้
การขยายสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) ในปี 2564 ยังคงเดินหน้าขยายตามแผน 100 สถานีในปีนี้ จากสิ้นไตรมาส 1/2564 นั้นมีทั้งสิ้น 1,243 สถานี ส่วนยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านปั้มในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 360 ล้านลิตร ส่วนแบ่งการตลาดด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ร้อยละ 15.9% (ตามข้อมูลกรมธุรกิจพลังงาน) เป็นอันดับที่ 2 ส่วนผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปมีมาร์เก็ตแชร์ที่ 11% ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของตลาดลองจากปตท.และเชลล์ จากเดิมเมื่อช่วง 3 ปีก่อนอยู่อันดับที่ 5 ส่วนร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการฯ ก็จะมีพันธมิตรที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tops Daily, Mini Big C และ Family Mart