ผู้ชมทั้งหมด 132
AOT คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารปี 68 แตะ 130 ล้านคน การท่องเที่ยวฟื้นตัว พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินระดับโลก ตั้งเป้าผลักดันท่าอากาศยานไทยติด 1 ใน 20 ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ทอท.หรือAOT กล่าวแถลงผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567 ของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) AOT ว่า AOT มีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.41 ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 1,956.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.45 แบ่งเป็น รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจํานวน 8,804.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,727.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.41 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 781.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.12 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารของ ทอท. โดยเฉพาะจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้ง 6 ท่าอากาศบายของ AOT ที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม 33.62 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.41 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 20.85 ล้านคนและผู้โดยสารภายในประเทศ 12.77 ล้านคน ในขณะที่มีจำนวนเที่ยวบินรวม 204,549 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ14.78 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 117,333 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 87,216 เที่ยวบิน
“ปริมาณผู้โดยสารโดยรวมเพิ่มขึ้น 16.5% ส่วนใหญ่มาจากผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบที่ดีต่อรายได้และการท่องเที่ยวของไทย ทำให้ปริมาณการเดินทางอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถของการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมการบิน โดย AOT ได้ตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและเชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับท่าอากาศยานของไทยให้เป็น 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10 ของโลก และสามารถแข่งขันในระดับสากลได้อย่างยั่งยืน”นายกีรติ กล่าว
สำหรับการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารช่วงไตรมาศ 2 (Summer) ช่วง30 มี.ค.-30 ต.ค.68 ก็ยังเป็นในทิศทางบวกและผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกกันของปีก่อน แบ่งเป็น ภายในประเทศ จาก 24 ล้านคนเป็น 32 ล้านคน และระหว่างประเทศจาก42 ล้านคนเป็น 55 ล้านคนส่งผลให้ในภาพรวมจะเพิ่มขึ้นจาก 66 ล้านคนเป็น 87 ล้านคน ดังนั้นจึงมองว่าผู้โดยสารน่าจะเติบโตในปริมาณที่สูงขณะที่ทั้งปี 68 คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารว่าจะไปอยู่ที่ประมาณ 130 ล้านคน
นายกีรติ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนลงทุนในปี 68 มีโครงการสำคัญคือ โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ทสภ. ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ(บอร์ด) AOT พิจารณาแล้ว และเตรียมนำสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงปรับวงเงินก่อสร้างที่มีการปรับเพิ่มจากประมาณ 9 พันล้านบาท เป็นประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ในเดือน พ.ค. 68 และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ระยะที่ 3 วงเงินประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาทน่าจะเปิดประมูลช่วงเดือน ธ.ค. 68
ทั้งนี้ AOT มุ่งเป้าให้ท่าอากาศยานเป็น Green Airport และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ Net Zero ภายในปี2587 ในระดับนานาชาติ อาคาร SAT-1 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้รับรางวัล “ท่าอากาศยานสวยที่สุดในโลกปี 2567 ด้วย