ผู้ชมทั้งหมด 1,052
ACE ได้จำนวนมากสุดกวาดโรงไฟฟ้าชุมชน 50 เมกะวัตต์ ขณะที่ SCI ได้ 11 เมกะวัตต์ CV 19.8 เมกะวัตต์ ด้าน UAC 1 โครงการ 3 เมกะวัตต์คาดลงทุน 300 ล้านบาท พร้อมร่วมกับพันธมิตรผู้ที่ได้สิทธิ์โครงการอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ประกาศผล โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) 150 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 43 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 149.50 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามในจำนวนนี้ส่วนมากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกเพียง 1 โครงการ คือ บริษัท ยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่จ.ขอนแก่น เชื้อเพลิงชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ จากที่ผ่านผ่านด้านเทคนิคจำนวน 4 โครงการรวมกำลังการผลิตรวม 12 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาท
“UAC สู้ราคาไม่ไหวเพราะแข่งกันลดราคาขายไฟฟ้ากันลงมาต่ำมาก เลยทำให้ได้มาเพียง 1 โครงการ แต่ก็อาจจะไปร่วมเป็นพันธมิตรกับรายอื่นด้วยหากมีโอกาส เพราะเราก็เชื่อมั่นด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ของเรา ซึ่งหากผู้ชนะรายอื่นเสนอให้ไปร่วมลงทุนด้วยก็จะพิจารณา” นายชัชพล กล่าว
อย่างไรก็ตามโครงการโรงไฟฟ้าชัมชนฯ นำร่อง 150 เมกะวัตต์นั้นเชื่อว่ารัฐบาลจะนำเอาไปเป็นต้นแบบ และขยายผลในระยะที่ 2 ต่อไป เนื่องจากว่าเป็นโครงการที่ดีที่ช่วยยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลในระยะที่ 2 อีกหากรัฐบาลจะขยายผลในระยะที่ 2 นอกจากนี้แล้ว UAC ก็ให้ความสนใจในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงานต่อไป
นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI กล่าวว่า บริษัทร่วมทุนของ SCI ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 11 เมกะวัตต์ และมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการร่วมกับเครือข่ายเกษตรกร และจัดหาวัตถุดิบที่นำมาใช้สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนในแต่ละพื้นที่ ตามแผนงานที่วางไว้
“ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ SCI ในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงาน เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต”นายเกรียงไกรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผ่านการคัดเลือกให้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจำนวน 18 โครงการ ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 50 เมกะวัตต์ มากที่สุดในจำนวนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากที่ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิค 29 โครงการกำลังการผลิตติดตั้งรวม 93 เมกะวัตต์
ขณะที่บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผ่านการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 19.8 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 1.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนาแก้ว จ.ลำปาง โดยบริษัท โคลเวอร์ กรีน ๔ จำกัด เชื้อเพลิงชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ 2.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเนินปอ จ.พิจิตร โดยบริษัท โคลเวอร์ กรีน ๖ จำกัด เชื้อเพลิงชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ และ3.) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนากอก จ.หนองบัวลำภู โดยบริษัท โคลเวอร์ กรีน ๗ จำกัด เชื้อเพลิงชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์