ACE ปลื้ม ผลงานQ3/67 โตต่อเนื่อง จ่อทยอย COD อีก 5 โครงการสิ้นปีนี้

ผู้ชมทั้งหมด 106 

ACE  มั่นใจโรงไฟฟ้าโซลาร์ฯในมือ จ่อทยอย COD อีก 5 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ผลงาน Q3/67 รายได้1,734.2 ล้านบาท โตต่อเนื่องจากไตรมาส2 

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ ACE คาดว่าจะสามารถเปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์(COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มเติมจำนวน 5 โครงการ และประเมินว่าจะสามารถ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มได้อีก 10 โครงการ ภายในปี 2568 และอีก 3 โครงการ ภายในปี 2570  โดยทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ ACE ชนะการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขาย (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีกหลายโครงการซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาและก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จและเปิด COD ได้เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้

ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567  ACE มีรายได้จากการขายและบริการรวม 1,734.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ทำได้ 1,566.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติ เติบโตต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดต่อกัน

โดยผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ถือว่าน่าพอใจ โดยเฉพาะในส่วนของตัวเลขกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติ ที่ภายหลังจากพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นต้นมา ก็มีการเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันสองไตรมาส โดยกำไรขั้นต้นได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 350.0 ล้านบาทเป็น 398.2 ล้านบาท ในไตรมาส 2 และ 462.0 ล้านบาท ในไตรมาส 3 และกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติก็เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 166.1 ล้านบาท เป็น 210.6 ล้านบาท ในไตรมาส 2 และ 269.3 ล้านบาท ในไตรมาส 3 หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติ เฉลี่ยไตรมาสละ 14.9% และ 27.3% ตามลำดับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก 

“จากนี้ไปบริษัทฯ ก็ยังจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายโครงการที่จะทยอยแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ACE ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593“