ACE คว้าเซ็น PPA 18 รฟ.ชุมชน กำลังผลิตรวม 59 MW

ผู้ชมทั้งหมด 404 

ACE เซ็น PPA 18 โรงไฟฟ้าชุมชน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 59 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าตามแผนการก่อสร้าง ดันสู่เป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2567

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา บริษัทย่อยของ ACE จำนวน 18 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ประเภทโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) รวม 18 โครงการ (1 บริษัทย่อยต่อ 1 โครงการ) ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของทั้ง 18 โครงการได้รับการลงนามโดย กฟภ. ซึ่งเป็นคู่สัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของทั้ง 18 โครงการ คือ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566

สำหรับ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของ ACE ที่ได้ทำการลงนาม PPA ทั้ง 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 59.00 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตเสนอขายรวม 50.00 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย กำแพงเพชร บุรีรัมย์ และราชบุรี โดยขั้นตอนต่อไปบริษัทฯ จะเดินหน้าวางแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายใน 36 เดือน นับจากวันลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา

“การลงนาม PPA ครั้งนี้ถือเป็นอีกความก้าวหน้าสำคัญของบริษัทฯ ที่ช่วยย้ำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำพลังงานสะอาด ซึ่ง ACE มั่นใจว่าจะสามารถนำประสบการณ์ในการพัฒนาและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหลายพื้นที่ที่เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จ มาใช้พัฒนาประสิทธิภาพและมาตรฐานโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในเชิงธุรกิจสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนแต่ละพื้นที่ให้เติบโตไปได้ด้วยกันอย่างยั่งยืนต่อไป”

นอกจากนี้ ACE ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติและเกณฑ์ความพร้อมทางเทคนิคที่อยู่ระหว่างรอการประกาศผลจากภาครัฐอีกหลายโครงการ อาทิ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System) ซึ่งคาดจะทราบผลในอีกไม่นานนัก ซึ่งโครงการเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการสำคัญในอนาคตของบริษัทฯ และจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งให้ได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 ตามแผนงานได้มากยิ่งขึ้น และหากมีความคืบหน้าใดเพิ่มเติม บริษัทจะแจ้งให้ทราบเป็นลำดับต่อไป