ผู้ชมทั้งหมด 659
“สุพัฒนพงษ์” นั่งหัวโต๊ะ ประชุมบอร์ด กบน. 1 พ.ย.นี้ เคาะหลักเกณฑ์กองทุนน้ำมันฯ กู้เงิน 2 หมื่นล้านบาท อุ้มราคาดีเซล 3 เกรดไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร บรรเทาภาวะวิกฤติราคาตลาดโลกพุ่ง ก่อนรายงาน กพช.5 พ.ย.นี้ และเสนอ ครม.อนุมัติต่อไป
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมนั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งจะพิจารณาวาระสำคัญเรื่องกรอบการกู้เงินของ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สามารถใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้กู้เงินได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาพยุงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 3 ชนิด คือ ดีเซล บี7,บี10 และบี 20 ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ลดผลกระทบด้านภาวะค่าครองชีพให้กับประชาชน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับรายละเอียดหลักเกณฑ์การกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯ มีสาระสำคัญที่ กบน.จะต้องพิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.กรอบวงเงินกู้ ที่ตามกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง จะต้องบรรจุกรอบเงินกู้เข้าไปรวมอยู่ในแผนก่อหนี้สาธารณะด้วย 2.หลักเกณฑ์การกู้เงิน และ 3.แผนการกู้เงินและแผนการชำระหนี้
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯ จะต้องออกหลักเกณฑ์ฯ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติการกู้เงินด้วย โดยตามกระบวนการดำเนินการนั้น ทาง กบน.จะต้องส่งเรื่องผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯเป็นประธานฯ พิจารณา เนื่องจากนโยบายด้านพลังงาน ที่จะเสนอเข้าครม.จำเป็นต้องนำเสนอผ่านทาง กพช. ซึ่งคาดหมายว่า หากหลักเกณฑ์การกู้เงินผ่านการพิจารณาจาก กบน. ในวันที่ 1 พ.ย.นี้แล้ว ก็จะสามารถรายงานที่ประชุม กพช.ที่เบื้องต้นมีนัดหมายประชุมในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ก่อนเสนอเข้าครม.อนุมัติต่อไป
“ขณะนี้ ทาง สกนช.อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดการกู้เงิน เพื่อนำเสนอ กบน.พิจารณาในวันที่ 1พ.ย.นี้ ซึ่งกรอบวงเงินกู้ทาง สบน. ได้จัดเตรียมไว้แล้ว แต่ประเด็นสำคัญที่ยังน่าเป็นห่วงคือ ราคาน้ำมันตลาดโลกยังมีความผันผวน แต่การจัดทำแผนกู้เงินก็ยังยึดตามมติ กบง.เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 ที่คาดการณ์บนสมมติฐานกรณีเลวร้ายที่สุด ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปไม่เกินระดับ 87.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล”
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการไม่ประมาทต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ยังมีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ทางกระทรวงพลังงาน ก็ได้สั่งการให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พิจารณาข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 วรรค 3 ที่เปิดช่องให้สามารถใช้อำนาจตาม พระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ) กู้เงินเพิ่มเติมได้ แต่จะมีการกู้เงินตามอำนาจ พ.ร.ฎ.หรือไม่ และวงเงินเท่าไหร่นั้น ยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กบน.เป็นสำคัญ รวมถึงยังมีช่องทางเรื่องของกลไกภาษีที่ต้องนำเข้ามาพิจารณาความเหมาะสมร่วมกันด้วย แต่เพื่อความไม่ประมาทต่อสถานการณ์กระทรวงพลังงานจำเป็นต้องจัดเตรียมแนวทางดูแลผลกระทบให้กับประชาชนอย่างรอบคอบ