ผู้ชมทั้งหมด 856
โออาร์ จับมือ กองทุน 500 Startups จัดตั้ง “ORZON Ventures” ใส่งบก้อนแรก 1,500 ล้านบาท ลุยปั้นStart-up ไทยสู่ “ยูนิคอร์น” เล็งเข้าลงทุนไตรมาส 4 ปีนี้ 1-2 บริษัทในปีนี้ ขณะที่ตั้งเป้าหมาย เฟสแรก ลงทุน 10-15 บริษัท งบ 25 ล้านดอลลาร์
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยในงานเสวนาหัวข้อ “Beyond Partnership. Beyond Unicorns. Beyond Horizons.” ว่า จากความร่วมมือระหว่าง PTTOR International Holdings (Singapore) Pte. Ltd. (SGHoldCO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ โออาร์ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และ กองทุน 500 Startups หรือ 500 TukTuks ซึ่งเป็นกองทุนที่ Start-up ไทยรู้จักเป็นอย่างดี ในการจัดตั้งกองทุน “ออร์ซอน เวนเจอร์ส” (ORZON Ventures, L.P.) โดยมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็นไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ในภายหลัง เพื่อแสวงหาและสนับสนุน Start-up ใหม่ ๆ ในระดับ Series A-B ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโออาร์ และธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตในระยะยาว
ทั้งนี้ โออาร์ มีวิถีในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างความร่วมมือเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยหนึ่งในแนวทางการสร้างความเติบโตทางธุรกิจของ โออาร์ คือการเสาะแสวงหาธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลกว่าธุรกิจน้ำมันท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดย โออาร์ ไม่ได้มองหาการร่วมมือเฉพาะกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ โออาร์ มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือกับ ‘คนตัวเล็ก’ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการลงทุนใน SMEs หรือบริษัท Start-up
“โออาร์ ตั้งงบลงทุน 5 ปี อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท จำนวนนี้ 35% ลงทุนโครสร้างพื้นฐานธุรกิจน้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้า อีก 30% ลงทุนในธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน(non oil) อีก 20% ลงทุนธุรกิจในต่างประเทศ และที่เหลือลงทุนในธุรกิจใหม่ new s curve ขณะที่การใส่เงินใน ORZON วงเงิน 1,500 ล้านบาท เป็นเพียงก้อนแรกเท่านั้น จากที่ขออนุมัติบอร์ดไว้ 2 ก้อน ซึ่งก็พร้อมใส่เงินลงทุนเพื่อสนับสนุน Start-up ต่อไป”
โออาร์ มองว่าบริษัท Start-up มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีความท้าทายหลายอย่าง เช่น การขาดความพร้อมด้านกำลังคน ขาดเงินทุน ขาดการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และขาดระบบนิเวศเกื้อหนุน โออาร์ จึงพร้อมช่วยเติมเต็มและสนับสนุน Start-up ทั้งในด้านเงินทุน การเข้าถึงฐานลูกค้าและความช่วยเหลือด้านพื้นฐานอื่น ๆ จากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสให้บริษัท Start-up เติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา โออาร์ ได้เริ่มมีการลงทุนและสร้างความร่วมมือกับบริษัท Start-up ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด หรือการร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจแฟลช เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมธุรกิจใหม่ของ โออาร์ ในด้าน Mobility และ Lifestyle ในการจัดตั้งกองทุน ORZON Ventures จะทำให้ โออาร์ สามารถเข้าถึง Start-up ที่อยู่ใน Early Stage ในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น
นายกระทิง พูนผล ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์และพันธกิจของ ORZON Ventures ในการสร้างกองทุนนี้ขึ้นมาเป็นไปดังความฝันและความตั้งใจดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง 500 TukTuks คืออยากให้ประเทศไทยมี Start-up ที่พอคนพูดถึงประเทศไทยแล้วนึกถึงบริษัทเหล่านี้ 500 TukTuks เชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ทำให้ความฝันนี้ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น ทั้ง โออาร์ และ 500 TukTuks มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้าง Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนและผลักดัน Start-up ไทยให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ
“จากพายากรใน 10 ปีข้างหน้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมี“ยูนิคอร์น” เกิดขึ้นประมาณ 20-40 ผมว่าเราสร้างมาร์เก็ตแชร์ของ“ยูนิคอร์น” ให้แชร์มาประเทศไทยให้เกินเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และด้วย OR เป็นลมใต้ปีกก็จะช่วยผลักดันขึ้นมาได้เร็วขึ้น บวกกับเงินลงทุนของ ORZON ก็น่าจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นใน 3-5 ปี แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ จะทำยังไงให้บริษัท Start-up อยู่ได้อย่างยั่งยืน และอาจเข้าระดมทุน IPO ได้ด้วย หรือ มีบริษัทที่เป็นยักษ์เล็กเกิดขึ้นหลายตัวในประเทศไทย”
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งจะมารับตำแหน่งผู้บริหารของ ORZON Ventures กล่าวว่า คาดว่า ในเดือนพ.ย.นี้ ORZON Ventures จะเข้าลงทุนใน Start-up ตัวแรกได้ และใน ปีนี้ น่าจะเห็นการเข้าลงทุนประมาณ 1-2 Start-up ขณะที่เฟสแรก มีเป้าหมายจะเข้าลงทุน 10-15 Start-up คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 25 ล้านดอลลาร์ จากตอนนี้มี Start-up เป้าหมายที่อยู่ในการพิจารณาประมาณ 20-30 Start-up
“เบื้องต้น OR ใส่เงินเข้ามาใน ORZON Ventures ประมาณ 1,500 ล้านบาท ถือว่าใหญ่เพียงพอกับการเข้าไปลงทุน Start-up ในระดับ Series A-B และในอนาคต OR ยังพร้อมใส่เงินลงทุนเข้ามาเพิ่มเติมด้วย”
โดย Start-up ที่ ORZON Ventures มองหาจะมีทั้งที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับ โออาร์ และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle หรือ ธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเดินทางในอนาคต (Mobility) และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) การท่องเที่ยว (Travel) สุขภาพ (Health and Wellness) รวมไปถึง Digital Lifestyle ต่าง ๆ และหาก Start-up ที่ ORZON Ventures ลงทุนไปสามารถเติบโตได้ดีบน OR Ecosystem โออาร์ อาจพิจารณาลงทุนตรงใน Start-up เองอีกทางด้วย นอกจากนี้ โออาร์ ยังได้เตรียมวงเงินลงทุนสำหรับเข้าลงทุนธุรกิจอื่น ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ โออาร์ ให้กับเศรษฐกิจไทย และส่งเสริมให้ธุรกิจใหม่เติบโตสู่ระดับโลกต่อไป
สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการดึงเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน ทั้งประสบการณ์ในการลงทุน Start-up กว่า 6 ปีของ 500 TukTuks ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนชั้นนำที่ได้ลงทุนใน Start-up มากที่สุดในไทย ผนวกกับ โออาร์ ที่เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกน้ำมันและมี OR Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานร่วมกับ Start-up ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิด Synergy ในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยผลักดัน Start-up ไทย ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก Continuous Disruption นี่คือความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในยุคทองของ South East Asia นี้ ร่วมพลิกโฉมวงการ Start-up ไทย สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hello@orzon.ventures