“ศักดิ์สยาม” เดินหน้าจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติ มิ.ย. 65

ผู้ชมทั้งหมด 572 

ศักดิ์สยาม” เดินหน้าจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติ ลั่นมิ.ย.65 มีเรือให้บริการแน่ 1 ลำ ชูโมเดลตั้ง 3 บริษัทให้บริการเดินเรือเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน และขนส่งระหว่างประเทศ หวังลดใช้กองเรือต่างชาติ เพิ่มมูลค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเล หวังยกระดับไทยเป็นฮับโลจิสติกส์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ทางโลจิสติกส์ ทางน้ำ และให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติรองรับโครงการเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) เพิ่มขีดความสามารถขนส่งทางน้ำของไทยนั้น ภายในเดือนตุลาคม 2564 การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ต้องเริ่มดำเนินการศึกษาความเหมาะสมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ

หลังจากนั้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กทท.จะต้องเสนอผลการศึกษาต่อคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง และเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ หลังจากนั้น กทท.ต้องจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และขอใบอนุญาตดำเนินงาน โดยคาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2565 สายการเดินเรือแห่งชาติจะเปิดให้บริการเดินเรือ และมีเรือให้บริการก่อน 1 ลำแน่นอน

ส่วนรูปแบบของการจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติที่จะจัดตั้งขึ้นนั้น จะมี 3 บริษัทคือ   1.บริษัทเดินเรือในประเทศ ที่จะเปิดให้บริการในบริเวณอ่าวไทยทั้งหมด ซึ่งสายการเดินเรือในประเทศทำหน้าที่ขนส่งสินค้าจากภาคใต้มาสู่ภาคกลาง และตะวันออก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน

ขณะเดียวกันได้ให้ กรมเจ้าท่า (จท.)ไปดูในรายละเอียดในเวลา 30 วัน ในการอนุมัติสร้างท่าเรือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีท่าเรือทุกจังหวัด ให้มีการจัดเป็นกลุ่มจังหวัด เพื่อลดปัญหาการขนส่งทางบกลง แก้ปัญหาจราจร อุบัติเหตุลดลง เป้าหมายเบื้องต้น คือ  ท่าเรือสงขลา ขณะเดียวกันที่ปราณบุรี มีโรงเหล็ก สหวิริยะ เดิมใช้ขีดความสามารถขนส่ง หรือ สลอตแค่ 10% ดังนั้นเหลืออีก 90%ที่จะสามารถมาบริหารจัดการได้

2 บริษัท อีสต์ จำกัด ให้บริการขนส่งสินค้าในทะเลอ่าวไทยไปยังทะเลฝั่งตะวันออกของภูมิภาค โดยเรือสินค้าจะออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพ และในอนาคตจะให้บริการที่ท่าเรือ แลนด์บริดจ์ ฝั่งทะเลจังหวัดชุมพร ซึ่งเส้นทางขนส่งทางอีสต์ นี้จะเดินทางให้บริการไปทางประเทศ เวียดนาม กัมพูชา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีนตะวันออก กับ

3.บริษัท เวสต์ จำกัด จะให้บริการรับและส่งสินค้า ที่ฝั่งทะเลจังหวัดระนอง โดยจะให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือไปยัง กลุ่มประเทศ กรอบความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจระหว่าง 7 ประเทศในภูมิภาคอ่าวเบงกอล ประกอบด้วย บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และไทย (BIMSTEC) ไปอัฟริกา และ ยุโรป

สำหรับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ คือจะเพิ่มะวางเรือรองรับการขนส่งสินค้าส่งออก และ นำเข้าของไทย ,ลดการขาดดุลค่าระวางเรือ ลดต้นทุนค่าขนส่งและโลจิสติกส์ ขณะเดียวกันเมื่อมีสายการเดินเรือจะช่วยพัฒนากองเรือไทยและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อู่ซ่อมเรือ อู่ต่อเรือ เป็นต้น และยังพัฒนาบุคลากรด้านพาณิชย์นาวีให้มีคุณภาพมากขึ้น ที่สำคัญยังขยายขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากเดิมที่ให้บริการท่าเทียบเรือ นอกจากนั้นจะลดการพึ่งพากองเรือต่างชาติ กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องขนส่งสินค้าสำคัญโดยเรือไทย และยังสามารถใช้เรือสัญชาติไทยขนส่งสินค้าภาครัฐ หรือ สินค้ายุทธศาสตร์ สินค้าพลังงาน ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง

“กทท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร ต่อไปหากมีการทำเรื่องน้ำให้เป็นระบบ จะสามารถสร้างรายได้ เพิ่มขีดความสามารถรัฐวิสาหกิจมากขึ้น  ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ กรมเจ้า กับ กทท. ไปหารือร่วมกันในการตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ เพราะการตั้งต้องขึ้นอยู่กับตลาดด้วย ทางเจ้าท่า ก็ต้องดูไลเซ่นส์ ท่าเรือก็ต้องดูตลาด เปิดเส่นทางให้สอดคล้องซึ่งเมื่อทำแบบนี้ จะช่วยให้การขนส่งทางน้ำ ลดต้นทุน สะดวกมากสุด”นายศักดิ์สยาม กล่าว