“เออาร์วี” ผนึก “ซัมซุง” พัฒนาโซลูชันหนุนสมาร์ทฟาร์มเมอร์

ผู้ชมทั้งหมด 580 

“เออาร์วี” ร่วมกับ “ซัมซุง” ส่งหลากโซลูชันช่วยอัพเกรดเกษตรกรไทยก้าวสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ ดันแผนปั้น 3เทคโนโลยีเชิงลึก ส่งตรงถึงแปลงเกษตรทุกพื้นที่

นายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโปรเจกต์ ARV x Samsung CSR Collaboration Project ร่วมกับ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และการบริหารจัดการแปลงเกษตร ผ่านการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ซึ่งมีจุดเด่นทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การฉีดพ่นปุ๋ยน้ำที่มีความแม่นยำ ทั่วถึง สามารถเก็บข้อมูลจากพื้นที่ผ่านภาพถ่ายเพื่อนำมาวิเคราะห์แผนในการปรับปรุงการเพาะปลูกได้ ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชัน “VARUN” ซึ่งเป็นแอปฯ เพื่อให้เกษตรกรสามารถออกแบบการทำแปลงเกษตรได้ด้วยตัวเอง และติดตามปัญหา การเจริญเติบโตของพืชได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาแอปฯ ขึ้นบนระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ จึงเป็นเหตุผลที่เออาร์วีร่วมมือกับซัมซุงในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีด้านการเกษตรได้อย่างไร้ขีดจำกัด

โดยนำร่องผลักดันสมาร์ทฟาร์มเมอร์ในพื้นที่ไร่แสนสุขคาเฟ่ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวจำนวน 33 ไร่

ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2564 – ปี 2565 ได้วางแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึก หรือ DeepTech เพื่อลดปัญหาให้เกษตรกร 3 รูปแบบ ได้แก่

1.เทคโนโลยีเพื่อลดการใช้แรงงานมนุษย์ในการทำเกษตรกรรม เนื่องจากในปัจจุบันแรงงานในกลุ่มดังกล่าวเริ่มมีจำนวนน้อยลง โดยเป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ต่ำ เกษตรกรที่ประกอบธุรกิจตั้งแต่ในอดีตเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย รวมถึงค่าตอบแทนที่แพงขึ้นเนื่องด้วยภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยตัวอย่างของกลุ่มเทคโนโลยีด้านนี้ อาทิ อากาศยานไร้คนขับ หุ่นยนต์  และระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้แทนมนุษย์ ฯลฯ

2. เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการพืช เนื่องด้วยความแปรปรวนของสภาพอากาศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ที่ทำให้การทำเกษตรแบบดั้งเดิมนั้นควบคุมได้ยากขึ้น โดยยังครอบคลุมถึงการจัดการแมลง และโรคพืชใหม่ ๆ ที่อุบัติขึ้นในพื้นที่ทางการเกษตรในแต่ละภูมิภาค ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยเกษตรกรในการวิเคราะห์ ตัดสินใจ ลดการคาดเดา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

3. การจับคู่เกษตรกร และผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการเกษตร การเข้ามาของเทคโนโลยีถือเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันให้บริการต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันได้เกิดบริการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันเพิ่มมากขึ้น เช่น แอปฯ จองรถเกี่ยวข้าว เว็บไซต์ด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ฯลฯ โดยในส่วนของเออาร์วีได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของเทคโนโลยีเพื่อการบริการเกษตรกร จึงได้ริเริ่มพัฒนาระบบการจับคู่เกษตรกร และผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเกษตรในแต่ละด้าน โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และปูทางผู้เชี่ยวชาญด้านดังกล่าวให้มีปริมาณมากขึ้น

ปัจจุบัน เออาร์วี มีการพัฒนาโซลูชันเพื่อการเกษตรอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอากาศไร้คนขับ หรือโดรน เทคโนโลยีที่ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์โดยคนไทย มุ่งเสริมประสิทธิภาพ มีความสามารถเฉพาะตัวและจุดเด่นทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการฉีดพ่นปุ๋ยน้ำที่มีความแม่นยำและสามารถเก็บข้อมูลจากพื้นที่ผ่านภาพถ่ายเพื่อนำมาวิเคราะห์แผนในการปรับปรุงการเพาะปลูกได้อย่างต่อเนื่อง

รวมถึง แอปพลิเคชัน “วรุณ (VARUN)” ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่และติดตามกิจกรรมบนแปลงเกษตร โดยในปัจจุบันแอป VARUN มีฟีเจอร์หลักคือ การวาดแปลง การกรอกและติดตามกิจกรรมบนพื้นที่รายแปลง รวมถึงการแจ้งเตือนกิจกรรมตามเวลาที่เหมาะสม และการแชร์ข้อมูลแปลง และ Varuna Service Matching ซึ่งเป็นระบบจับคู่เกษตรกรเเละนักบินโดรนเกษตรเพื่อให้บริการฉีดพ่นแปลงเกษตรทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยมีความมุ่งหวังในการลดอุปสรรคการหานักบินโดรนมาฉีดพ่นแปลงเกษตรเมื่อต้องการ

อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องของคุณภาพงาน เพราะทาง “วรุณา (VARUNA)” ได้คัดนักบินโดรนเกษตรที่มีคุณภาพไว้ในระบบ รวมไปถึงแผนการเพิ่มความรู้ให้เกษตรกรเรื่องการบินโดรนเกษตร เพื่อช่วยกระจายความรู้ ความปลอดภัยในการบิน และช่วยสร้างอาชีพเสริมอีกด้วย ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดและใช้บริการได้ที่ www.varunatech.co