ผู้ชมทั้งหมด 937
“กฟผ.” จับมือ “ราช กรุ๊ป” และ “เอ็กโก กรุ๊ป” จัดตั้งบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้านพลังงานไฟฟ้า รองรับเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัล ในอนาคต
วันนี้ (13 ก.ย.64) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือRATCH และ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO การจัดตั้งบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER COMPANY LIMITED) ได้ดำเนินการจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อย ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 โดยมีผู้ถือหุ้นร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กฟผ. ถือหุ้นร้อยละ 40 ราช กรุ๊ป ร้อยละ 30 และเอ็กโก กรุ๊ป ร้อยละ 30 สำหรับวงเงินลงทุนในบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด รวม 2,960 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 150 ล้านบาท และจะทยอยลงทุนเพิ่มเติมจนครบจำนวนในระยะเวลา 5 ปี
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กลุ่ม กฟผ. มีแผนสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจนวัตกรรมพลังงานและเทคโนโลยีแห่งอนาคต (New S-Curve) โดยการสร้างตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้านพลังงาน เพื่อรับมือกับ Energy Disruption ที่เกิดขึ้น และมุ่งต่อยอดงานวิจัยด้านนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ของกลุ่ม กฟผ. สู่เชิงพาณิชย์
การจัดตั้งบริษัทครั้งนี้นอกจากจะเพิ่มศักยภาพทางการลงทุนใหม่ ๆ แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาและต่อยอดเชิงพาณิชย์ในงานวิจัยและนวัตกรรม ของ กฟผ. และกลุ่ม กฟผ. รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานในอนาคต (Future Energy) และ Startup ในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งในที่สุดแล้ว จะส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม และผลักดันไปสู่ประเทศแห่งนวัตกรรม (Innovation Nation) ที่จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบาย Thailand 4.0
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนธุรกิจนอกเหนือจากผลิตไฟฟ้าไว้ที่ร้อยละ 20 ซึ่งรวมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านไฟฟ้าและพลังงานที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตถัดไป (Next normal) หลังวิกฤติโรคติดเชื้อโควิด-19 รองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุดดิจิทัล (Digital Transformation) และสังคมคาร์บอนต่ำในอนาคตอันใกล้นี้
บริษัทฯ มั่นใจว่า อินโนพาวเวอร์ จะเป็นกลไกที่ไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาและต่อยอดเชิงพาณิชย์ในงานวิจัยและนวัตกรรมของ กฟผ. เท่านั้น แต่ยังจะช่วยเสริมสร้างฐานธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ และกลุ่ม กฟผ. ให้ขยายใหญ่และเติบโตมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ราช กรุ๊ป จะได้นำประสบการณ์ ความรู้ความเข้าใจเชิงธุรกิจเข้าไปเสริม
การพัฒนาและลงทุนนวัตกรรมต่าง ๆ ให้สามารถตอบสนองโมเดลธุรกิจใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่เน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดวิถีชีวิตของสังคมในยุคดิจิทัล ตลอดจนช่วยสร้างตลาดและขยายฐานลูกค้าของอินโนพาวเวอร์ เพื่อให้อินโนพาวเวอร์มีรายได้และเติบโตได้ตามเป้าหมาย
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า การร่วมทุนจัดตั้งบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เป็นก้าวสำคัญในการรับมือและตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยจะเป็นบริษัทเรือธงด้านนวัตกรรมไฟฟ้าของกลุ่ม กฟผ. ในขณะเดียวกัน บริษัทนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ Smart Energy Solution ของเอ็กโก กรุ๊ป เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต โดย เอ็กโก กรุ๊ป จะเน้นการต่อยอดและพัฒนาเทคโนโลยีด้านไมโครกริด ด้านระบบกักเก็บพลังงาน และด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะสอดคล้องกับทิศทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน คือ Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth
สำหรับ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด จะดำเนินการผ่าน 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ หน่วยงานสนับสนุนแนวคิดทางธุรกิจใหม่ (Collaborator) หน่วยงานเพื่อการบ่มเพาะธุรกิจ (Incubator) หน่วยงานเพื่อเร่งการเติบโตธุรกิจ (Accelerator) และหน่วยงาน Corporate Venture Capital (CVC) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทในกลุ่ม กฟผ. สามารถรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสม และยั่งยืน