ผู้ชมทั้งหมด 516
CK คาดรายได้ปีนี้ยังใกล้เคียงปี 63 ไตรมาส 4/64 รอเซ็นงานรถไฟทางคู่ 4.62 หมื่นล้าน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 7-8 หมื่นล้านหนุน Backlog ทะลุแสนล้าน มั่นใจชิงรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ลุ้นประมูลสายสีส้มตะวันตกปีนี้
แหล่งข่าวจากบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า คาดว่าผลประกอบการในปี 2564 จะใกล้เคียงกับปี 2563 ที่มีรายได้รวมราว 18,167 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 28,397 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ปี 2564 และปี 2565 โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากค่าก่อสร้างราว 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้จากยอด Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่รวมงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่อยู่ระหว่างการรอลงนามในสัญญาหลังจากกิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE ซึ่งประกอบด้วย CK และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เสนอราคาต่ำสุดจำนวน 2 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กิโลเมตร เสนอราคาต่ำสุดที่ 26,900 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ช่วง ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กิโลเมตรเสนอราคาต่ำสุดที่ 19,390 ล้านบาท มูลค่ารวม 46,290 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ไตรมาส 4/2564
นอกจากนี้แล้วยังคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเขื่อนหลวงพระบาง ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเขื่อนไซยะบุรี ที่มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,285 เมกะวัตต์ โดยโครงการนี้มีกรอบวงเงินลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนค่าก่อสร้างราว 7-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากสามารถลงนามในสัญญาได้ในช่วงปลายปีนี้ก็จะทำให้ Backlog กลับไปอยู่ในระดับแสนล้านบาท
อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเขื่อนหลวงพระบางนั้นบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CK เป็นผู้ดำเนินโครงการลงทุน ในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เมื่อลงนาม PPA แล้ว CK ถึงจะสามารถลงนามในสัญญาก่อสร้างต่อไป
พร้อมกันนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทฯ ยังเตรียมยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.6 กิโลเมตร กรอบวงเงินลงทุน 8.23 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ยื่นประมูลในเดือนตุลาคม 2564
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กรอบวงเงินลงทุน 1.28 แสนล้านบาทก็คาดว่ารัฐจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปีนี้ ส่วนอีกโครงการ คือ อุโมงค์ระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ กรอบวงเงินลงทุนราว 6,000 ล้านบาทก็คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในปีนี้ ซึ่งหากรัฐเปิดประมูลได้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ก็มั่นใจว่าจะชนะการประมูลและจะช่วยหนุนยอด Backlog เติบโตเพิ่มขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวถึงผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ต้องรอให้สถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายดีขึ้นก่อนถึงจะประเมินตัวเลขได้ว่าจะส่งผลกระทบเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจัดหาอุปกรณ์ชุดตรวจ การฉีดวัคซีนให้กับพนักงานก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 และคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องปิดแคมป์ก่อสร้าง 1 เดือน แต่เชื่อว่าไตรมาส 4/2564 สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายดีขึ้น