ผู้ชมทั้งหมด 908
EGCO ทุ่มทุนพันล้านสร้างนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ซุ่มดีลพันธมิตร ไทย จีน อินเดีย ตั้งโรงงาน เน้นกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO (เอ็กโก กรุ๊ป) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ว่า การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ดำเนินการเสร็จแล้ว
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบโครงการคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จปลายปี 2564 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ได้ในปี 2565 คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี และเริ่มเปิดให้โรงงานต่างๆ ทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตได้ในช่วงปี 2566
โครงการลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของ EGCO คาดว่าจะใช้เงินลงทุนพัฒนาประมาณพันล้านบาท โดยมุ่งเน้นพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะสีเขียว (Smart & Green Industrial Estate) รองรับการลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ ยานยนต์แห่งอนาคต อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ การแพทย์ครบวงจร และเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน EGCO อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร ทั้งในประเทศไทย จีน อินเดีย เพื่อให้มาลงทุนสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
“หากทุกรายที่เจรจากันอยู่ตอบรับเข้าร่วมลงทุนทั้งหมด ก็คาดว่าพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอ แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ยอมรับว่า ยังประเมินคงความต้องการของลูกค้าได้ยาก เพราะจริงๆแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ก็ยังไม่มีใครอยากขยายการลงทุน แต่ก็ยังมองโอกาสไว้ตลอด หรือพูดได้ว่า ยังไม่มีใครอยากเอาเงินมาจม แต่หากโควิด-19 คลี่คลายลง เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้เร็วก็เชื่อมั่นว่าการลงทุนจะกลับมาเติบโต และมั่นใจว่ามีคนสนใจเข้ามาลงทุนในนิคมฯอย่างแน่นอน”นายเทพรัตน์ กล่าว
นายเทพรัตน์ กล่าวว่า โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยองตั้งอยู่ที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีพื้นที่รวมประมาณ 621 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของประเทศที่สามารถรองรับการลงทุนได้หลายรูปแบบ และยังมีจุดเด่นเชิงพื้นที่ เช่น การได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่เรียกได้ว่ามีสิทธิประโยชน์มากพอที่จะจูงใจนักลงทุนที่จะเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่
นอกจากนี้โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยองได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่เดิม ซึ่งมีความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ท่อน้ำดิบ สายส่งและสถานีไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น และยังสร้างโอกาสให้บริษัทในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและแบบ ลอยน้ำ (Solar Rooftop & Floating)