ผู้ชมทั้งหมด 665
CKP ไตรมาส 2/64 เติบโตแข็งแกร่งกำไร 707 ล้านบาท คาดไตรมาส 3/64 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นในฤดูฝน รับรู้กำไรจากการถือหุ้นเพิ่มในโรงไฟฟ้าไซยะบุรี
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2564 มีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท เติบโตขึ้น 801.9 ล้านบาท หรือ 845.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 94.9 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,295.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464.0 ล้านบาท หรือ 25.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 CKP มีกำไรสุทธิ 821.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่ขาดทุน 434.4 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรก 4,396.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 803.1 ล้านบาท หรือ 22.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,593.1 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) ซึ่งในไตรมาส 2/2564 มีรายได้ 956.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 563.5 ล้านบาท หรือ 143.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในครึ่งปีแรกปีนี้มีรายได้ 1,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 946.4 ล้านบาท หรือ 123.1% ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีปริมาณน้ำสะสม ณ ต้นปี 2564 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) เพิ่มขึ้น 616.9 ล้านบาท หรือ 626.3% YoY ในไตรมาส 2/2564 และเพิ่มขึ้น 915.6 ล้านบาท หรือ 208.5% YoY ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสาเหตุหลัก เนื่องมาจากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเฉลี่ยที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับ XPCL มีค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและการทยอยชำระคืนเงินต้น
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งแล้ว เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 บริษัทฯได้มีการออกหุ้นกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดในไตรมาส 2/2564 ซื้อสินทรัพย์หรือลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่อันดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และวันที่ 29 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ ได้ทำการชำระเงินค่าหุ้น XPCL ที่บริษัทฯซื้อเพิ่มร้อยละ 5 ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นใน XPCL ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจาก 37.5% เป็น 42.5% ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 โดยใช้วงเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 1,800 ล้านบาทในการชำระค่าหุ้นดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 คาดว่า CKP จะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง จากปริมาณการผลิตไฟฟ้าของ NN2 และ XPCL ที่คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2
โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี สามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และที่สำคัญ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ XPCL เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น 5% ในไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไปอีกด้วย
“ขณะนี้ CKP อยู่ระหว่างเตรียมการในการออกหุ้นกู้เพื่อทดแทนการเบิกวงเงินกู้ระยะสั้นที่ใช้ชำระค่าหุ้นส่วนที่มีการซื้อเพิ่มของ XPCL และคาดว่าจะออกเสนอขายหุ้นกู้ได้ในไตรมาส 4 นี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดอันดับเครดิตของ XPCL ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เพื่อรองรับแผนการออกหุ้นกู้ในปี 2565”นายธนวัฒน์กล่าว