GULFยังมั่นใจปีนี้รายได้เติบโตตามเป้า50%ทำนิวไฮต่อ

ผู้ชมทั้งหมด 540 

GULF ยังมั่นใจปี 64 รายได้เติบโตตามเป้า 50% ทำนิวไฮต่อเนื่องตั้งแต่ปี 60 เตรียมรับปันผล INTUCH 1.6 พันล้านบาทในเดือน ก.ย.นี้ พร้อม COD โรงไฟฟ้า 3 โครงการรวมกำลังการผลิต 1,493 เมกะวัตต์ในไตรมาส4/64

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า จากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 747,874,638 หุ้น หรือ 23.32% ขณะนี้ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ GULF มีสัดส่วนในการถือหุ้น INTUCH เพิ่มเป็น 1,354,752,952 หุ้น หรือคิดเป็น 42.25% จากเดิมถือในสัดส่วนจำนวน 606,878,314 หุ้น หรือ 18.93%

โดยในการทำการเสนอซื้อหุ้น INTUCH นี้บริษัทใช้เงินจำนวน 48,600 ล้านบาท ซึ่งการเป็นกู้เงินผ่าน 6 ธนาคาร SCB  GSB  UOB  TTB  KBANK  KTB โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินปันผล และจะทำให้หนี้สินต่อหุ้นของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เพียง 2.5-2.6 เท่า ต่ำกว่าเพดานก่อหนี้ของบริษัทที่จะต้องมีหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 3.5 เท่า

ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมออกหุ้นกู้ราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้คืนหนี้บางส่วน นอกจากนี้บริษัทยังจะได้รับเงินปันผลจาก INTUCH ที่ประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 1.23 บาท รวมทั้งสิ้น 1.6 พันล้านบาท ในวันที่ 2 กันยายน 2564 ซึ่งจะมีการนำมาชำระหนี้ต่อไป

ส่วนจะมีการทำ Tender Offer หุ้น INTUCH ในสัดส่วนที่เหลืออีกหรือไม่นั้นจะไม่มีการทำ Tender Offer เพิ่มเติม ขณะเดียวกันตามกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วห้ามดำเนินการทำ Tender Offer อีกภายใน 1 ปี

นางสาวยุพาพิน กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ เอสอาร์ซี (GSRC) หน่วยผลิตไฟฟ้าที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 662.5 เมกะวัตต์ เตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4/2564 ส่วนหน่วยผลิตไฟฟ้าที่ 1 ได้ดำเนินการ COD ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 662.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน จำนวน 326 เมกะวัตต์ (DIPWP) ระยะที่ 1 ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 40 เมกะวัตต์ก็จะดำเนินการ COD ในไตรมาส 4/2564 จากเดิมที่ต้อง COD ในไตรมาส 2/2564 ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเวียดนาม (Mekong Wind) ระยะที่ 1-3 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 128 เมกะวัตต์จะเริ่มทยอย COD ในช่วงไตรมาส 4/2564 เช่นกัน โดยการขยายลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าสิ้นปี 2564 GULF ยังมั่นใจว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 7,903 เมกะวัตต์

ขณะที่ผลประกอบการก็เติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2560 มีรายได้รวม 4,547 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 17,479 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 30,343 ล้านบาท และในปี 2563 มีรายได้รวม 33,370 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้ของปี 2564 นั้นทางผู้บริหารก็มั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 50% หรือ อยู่ในระดับ 55,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563