BANPUปิดดีลแหล่งก๊าซบาร์เนตต์หนุนEBITDAเพิ่มเป็น10%

ผู้ชมทั้งหมด 1,058 

BANPU ปิดดีลแหล่งก๊าซบาร์เนตต์เรียบร้อยรับรู้กระแสเงินสดเข้ามาทันที ชี้เป็นจังหวะดีช่วงไฮซีซันราคาขายก๊าซสูง หนุน EBITDA จาก 2 แหล่งบาร์เนตต์ กับ มาร์เซลลัสรวมกันเพิ่มเป็น 10% และมีปริมาณก๊าซสำรองที่พิสูจน์ 4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต พร้อมเดินหน้าต่อยอดพอร์ตธุรกิจก๊าซฯ ในสหรัฐฯ

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 บริษัท BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BANPU ได้ทำการเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนสุทธิ 489.80 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15,407.89 ล้านบาท)

การซื้อกิจการในครั้งนี้จะส่งผลให้ BANPU รับกระแสเงินสดเข้ามาทันที ซึ่งยังเป็นช่วงที่ราคาก๊าซปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้กำไรก่อนจะหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากแหล่งก๊าซธรรมชาติรวม 2 แหล่งของ BANPU บาร์เนตต์ กับ มาร์เซลลัส เพิ่มเป็นร้อยละ 10 จากยอดรวม EBITDA ของบริษัทฯ ในปีนี้ และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในปีหน้าจากการคาดการณ์ราคาก๊าซที่สูงขึ้น สะท้อนผลลัพธ์การเลือกลงทุนและปิดดีลในจังหวะที่เหมาะสม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter

อย่างไรก็ตามการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติของ BANPU นั้นมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบการขนส่งที่ดีรองรับ ทีมงานทั้งไทยและสหรัฐฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พร้อมเทคโนโลยีที่สนับสนุนการสร้างมูลค่าให้มากที่สุด ในขณะที่เน้นการบริหารต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพ (Lean Operation) เพิ่มความเชื่อมั่นว่าธุรกิจก๊าซจะเติบโตและเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่แข็งแกร่งของ BANPU ในอนาคตอันใกล้

ทั้งนี้หากรวมแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ กับ มาร์เซลลัส ทั้ง 2 แหล่งเข้าด้วยกัน BANPU จะมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองที่พิสูจน์แล้วทั้งหมดประมาณ 4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ พร้อมกำลังการผลิตเฉลี่ยรวมเกือบ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้ BANPU เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตก๊าซที่ใหญ่ที่สุด 20  อันดับแรกในสหรัฐฯ มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองอย่างน้อย 12 ปี และสามารถขยายได้อีกหากปัจจัยราคาเกื้อหนุน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน

นอกจากนี้ BANPU ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจนี้เพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในส่วนการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่ง พร้อมมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีตลาดในประเทศขนาดใหญ่ที่ไม่มีความผันผวน รวมถึงความต้องการนำก๊าซธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ การใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิตเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นต้น โดยเฉพาะโรงไฟฟ้านั้น BANPU ยังมีแผนต่อยอดการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอีกด้วย