ผู้ชมทั้งหมด 893
กพท. ปลดล็อคแอร์ไลน์ทำการบินเข้า-ออกอู่ตะเภาเพิ่มเติม หวังช่วยลดผลกระทบช่วงหยุดให้บินดอนเมือง สุวรรณภูมิชั่วคราว พร้อมเพิ่มทางเลือกเดินทางประชาชน
นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาทาง กพท. ได้ลงนามออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรเส้นทางบินให้กับผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564
โดยได้ปลดล็อคให้สายการบินที่ยังไม่ได้รับอนุญาตทำการบินเข้า-ออกท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา-ระยอง-พัทยาเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดให้มีสายการบินให้บริการได้ไม่เกิน 3 สายการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ เป็นเส้นทางสายย่อยที่มีผู้โดยสารใช้บริการไม่ถึง 1 แสนคนต่อปี
ทั้งนี้การอนุญาตให้สายการบินเข้ามาให้บริการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ นั้นเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบของสายการบินให้สามารถดำรงสถานะทางการเงิน และให้บริการประชาชนต่อไปได้ในช่วงที่สายการบินไม่สามรถบินรับ-ส่งผู้โดยสาร เข้า หรือออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลประกาศควบคุมเที่ยวบินเข้าออก ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เพื่อยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกและบรรเทาปัญหาการเดินทางให้กับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา และเพื่อประโยชน์สาธารณะในการส่งเสริมให้มีการใช้บริการขนส่งทางอากาศที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยการปลดล็อคให้สายการบินทำการบินเข้า-ออกท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ เพิ่มเติมได้นั้นจะมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีสายการบินนกแอร์ได้แจ้งความประสงค์เข้ามาแล้วว่าจะเริ่มทำการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 จำนวน 5 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช ขณะที่ล่าสุดสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้แจ้งขอเปิดทำการบินเช่นกัน โดยจะเริ่มทำการบินเที่ยวแรก วันที่ 2 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้หากสายการบินใดที่สนใจที่จะทำการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ เพิ่มเติมก็สามารถยื่นขออนุญาตได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์และบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเคยทำการบินอยู่ก่อน และได้ยกเลิกการทำการบินชั่วคราวไปนั้นยังไม่มีแผนที่จะกลับมาเปิดบินอีกครั้ง ขณะที่สายการบินไทยสมายล์ ไม่สนใจที่จะเข้ามาทำการบินเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสถานีให้บริการภาคพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ