ผู้ชมทั้งหมด 905
ราช กรุ๊ป ลงนามจ้างออกแบบวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้างกับ 3 บริษัท เตรียมพร้อมตอกเสาเข็มโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ในเดือน มิ.ย. 64 กำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ปี 67-68
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง กำลังผลิตติดตั้งรวม 1,400 เมกะวัตต์ ว่า บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นทั้งจำนวนโดยบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ (ถือหุ้นร้อยละ 51) กับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ถือหุ้นร้อยละ 49) ได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้างกับ 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอ็มเอชไอ พาวเวอร์ โปรเจกต์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท มิตซูบิชิ เพาเวอร์ จำกัด พร้อมทั้งลงนามในสัญญาบริการซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่ระยะยาว กับบริษัท เอ็มเอชไอ พาวเวอร์ โปรเจกต์ (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกองมีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ โดยรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 และดำเนินการจัดหาบริษัทผู้ออกแบบวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้างโครงการ รวมทั้งบริษัทผู้ให้บริการงานซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่แล้ว สำหรับงานก่อสร้างโครงการคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมิถุนายน 2564 และใช้เวลาประมาณ 43 เดือนจึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยโรงไฟฟ้าชุดที่ 1 กำหนดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 25 ปี ในเดือนมีนาคม 2567 และชุดที่ 2 ในเดือนมกราคม ปี 2568
“สำหรับบริษัทผู้ออกแบบวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกองทั้ง 3 ราย ล้วนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีประสบการณ์ในงานดังกล่าวมาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจว่าการก่อสร้างโครงการจะสามารถเดินหน้าอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ตามแผนงานและงบประมาณที่วางไว้ นอกจากนี้โครงการยังได้จัดทำสัญญาบริการซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่ระยะยาว ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้าสามารถดำรงความพร้อมจ่ายได้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และรักษาประสิทธิภาพการเดินเครื่องได้อย่างดี ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เน้นย้ำกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชน การควบคุมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และการปกป้องความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในช่วงการก่อสร้างโครงการอย่างเต็มที่และดีที่สุด” นายกิจจา กล่าว