ผู้ชมทั้งหมด 798
BCPG อัดงบ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รุกธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ ในบริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่าปัจจุบัน แนวโน้มธุรกิจพลังงานทดแทนของโลก มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากนโยบายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของภาครัฐ และจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่ด้วยข้อจำกัดในด้านความผันผวนของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อย่างเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทำให้โรงไฟฟ้าจำเป็นต้องพึ่งพาระบบกักเก็บพลังงานเพื่อการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและสร้างเสถียรภาพให้กับระบบสายส่ง
นอกจากนั้นระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ยังสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงไฟฟ้าสำรองขนาดใหญ่เพื่อรองรับช่วงเวลาที่มีความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูง ของภาครัฐ (Peak Shifting) ดังนั้นระบบจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility-Scale Energy Storage System) หรือแบตเตอรี่ คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้พลังงานทดแทนสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าหลักของประเทศได้อย่างมั่นคง
บริษัทฯ จึงได้เข้าลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility-Scale Energy Storage System) ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ (Vanadium Redox Flow) ร่วมกับกลุ่มบริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ (VRB Energy) โดยใช้วงเงินลงทุน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับบริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ผู้คิดค้นนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำของโลกที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจวิจัย ผลิตและติดตั้งแบตเตอรี่ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ รวมถึงยังมีสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญาหลายประการที่เกี่ยวข้องกับส่วนประกอบ และระบบของแบตเตอรี่ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ ในประเทศจีน อเมริกา และบางประเทศในเอเชีย
ดังนั้น การลงทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนเพื่อเร่งขยายกำลังการผลิตให้กับโรงงานผลิต VRB-ESS® ของบริษัทวีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ รองรับดีมานด์การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดแบตเตอรี่ในประเทศจีน ประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ แบตเตอรี่รีดอกซ์โฟลว์ (Redox Flow) ของบริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ เป็นแบตเตอรี่ประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นแบตเตอรี่ที่มีความเสถียร มีต้นทุนต่อหน่วยต่ำ และมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด สามารถเก็บสำรองไฟฟ้าได้เป็นเวลานาน มีความปลอดภัย และมีความสม่ำเสมอในการจ่ายไฟฟ้าได้ดี นอกจากนั้นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของแบตเตอรี่ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ตอบโจทย์การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน
อนึ่งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 บริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ ได้ลงนามในสัญญากับเทศบาลเมืองเซียงหยาง เพื่อเป็นผู้จัดหาและติดตั้งแบตเตอรี่ ขนาด 100 MW / 500 MWh สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองเซียงหยาง จังหวัดหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวยังรวมถึงโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตและประกอบแบตเตอรี่กำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ต่อปี (Gigafactory) โดยในขณะนี้ VRB อยู่ระหว่างการดำเนินการผลิตแบตเตอรี่เฟสแรกขนาด 40MW / 200MWh และก่อสร้างโรงงานผลิตและประกอบแบตเตอรี่ขนาด 50 เมกะวัตต์ต่อปี