ผู้ชมทั้งหมด 94
กรมทางหลวง แก้ปัญหารถติดพระราม 2 บ้านแพ้ว – บางน้ำวน จ.สมุทรสาคร อัดงบ 400 ลบ. ผุดทางคู่ขนาน – สร้างสะพานใหม่ ระบุดำเนินการนอกช่องทางหลักยันไม่มีผลกระทบต่อการจราจร ย้ำทุกกระบวนต้องปลอดภัย ย้ำ! ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ซึ่งปัญหาเกิดจากบริเวณจุดสัญจรเป็นลักษณะคอขวด ได้แก่ สะพานคลองขุดบ้านบ่อ (กม.39+357) และสะพานข้ามคลองท่าแร้ง (กม.39+987) ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยปัจจุบันบริเวณสะพานคลองขุดบ้านบ่อและสะพานข้ามคลองท่าแร้ง มีช่องจราจรเพียง 3 ช่อง ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ส่งผลให้รถเคลื่อนตัวช้า และมีรถติดสะสมเป็นระยะทางยาว รวมไปจนถึงรถยนต์ที่มาจากโครงการก่อสร้างทางพิเศษหมายเลข 82 (M82) ที่ไหลเข้ามาสู่ถนนพระราม 2 มีแนวโน้มที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ถนนพระราม 2 นั้นเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคใต้ที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่นถึง 200,000 คันต่อวัน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
ดังนั้น กรมทางหลวง (ทล.) จึงได้เข้าแก้ไขปัญหาเพื่อให้การสัญจรของประชาชนมีความราบรื่นและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น ทล. จึงได้ อนุมัติงบประมาณ 400 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ขนานถนนพระราม 2 สายทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว – บ.บางน้ำวน ช่วง กม.39+000 – กม.40+050 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 2568 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือนกันยายน 2568 มีระยะเวลาดำเนินการ 780 วัน โดยมีรายละเอียดการก่อสร้างที่สำคัญได้แก่
1.ก่อสร้างสะพานใหม่ข้างละ 2 แห่งในช่องทางคู่ขนาน ข้ามคลองขุดบ้านบ่อ (กม.39+357) ความยาว 370 เมตร และคลองท่าแร้ง (กม.39+987) ความยาว 350 เมตร เพื่อขจัดปัญหาคอขวดบริเวณสะพานช่องทางหลัก พร้อมปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานจำนวน 4 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดปัญหาการตัดกระแสจราจรบนทางหลัก 2.ปรับปรุงทางคู่ขนานใหม่ขนาด 6 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ผิวทางคอนกรีต ไหล่ทาง และทางเท้า เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับการจราจร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการระบายรถและลดความแออัด พร้อมทั้งระบบระบายน้ำ
นายอภิรัฐ กล่าวต่อว่า โดยโครงการที่จะดำเนินการนั้นการก่อสร้างทั้งหมดจะดำเนินการในพื้นที่นอกช่องทางหลักที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการจราจรบนช่องทางหลักแต่อย่างใด และ ทล. รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้วางแผนการก่อสร้างอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้ทางน้อยที่สุด และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการจราจรด้วยความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนยังคงสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การก่อสร้างทางคู่ขนานและสะพานใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มช่องทางรองรับรถยนต์ในทิศทางขาออก ลดปัญหาการเบียดแทรก และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณคอสะพานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนผู้ใช้ทาง