กองทุนน้ำมันฯ ติดลบเหลือ 52,513 ลบ. ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ผู้ชมทั้งหมด 95 

สกนช. เผย สถานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบเหลือ 52,513 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังราคาตลาดโลกปรับลดลง รัฐรีดเงินส่งเข้ากองทุนฯเพิ่ม ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมัน ยังอยู่ในระดับสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 2.61 บาทต่อลิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้รายงานสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯล่าสุด ณ วันที่ 20 เม.ย. 2568 พบว่า ติดลบเหลือ 52,513 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 7,020 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 45,493 ล้านบาท  ซึ่งการติดลบดังกล่าว ถือว่าต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากเคยติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ในปี 2565 

ทั้งนี้ สถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ที่ติดลบลดลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ขณะที่คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ปรับเพิ่มอัตราจัดเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดส่งเข้ากองทุนฯเพิ่ม

ส่งผลให้ ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าประมาณ 394 ล้านบาทต่อวัน (11,820 ล้านบาทต่อเดือน) ซึ่งมาจากการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเข้ากองทุนฯ ได้ 132 ล้านบาทต่อวัน ( 3,960 ล้านบาทต่อเดือน) รวมทั้งจากผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ  243 ล้านบาทต่อวัน (7,290 ล้านบาทต่อเดือน) และมาจากโรงแยกก๊าซฯ อีก 19 ล้านบาทต่อวัน (570 ล้านบาทต่อเดือน)

ขณะที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยข้อมูล ค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 21 เม.ย. 2568 เปลี่ยนแปลง ดังนี้ ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ยังคงทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 มีค่าการตลาด อยู่ที่ 4.07 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดอยู่ที่ 3.47 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 3.54 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.86 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 3.94 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.72 บาทต่อลิตร  โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-18 เม.ย. 2568 อยู่ที่ 2.61 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)