ผู้ชมทั้งหมด 81
GC จับมือ พันธมิตรจากสหรัฐฯ เตรียมนำเข้าอีเทน ปริมาณ 400,000 ตันต่อปี มาใช้ในประเทศไทยเป็นรายแรก ทดแทนวัตถุดิบอื่นๆ หวังเสริมความมั่นคงของวัตถุดิบและความยั่งยืน คาดว่าเริ่มรับมอบอีเทนนำเข้าในปี 2572
การดำเนินงานดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ “Holistic Optimization เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน” ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งให้ความสำคัญกับการเสริมความมั่นคงของวัตถุดิบในระยะยาว การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน และการเสริมบทบาทของประเทศไทยในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ระดับโลก พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมความสมดุลทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา โดย GC มีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากสามารถผสานการใช้อีเทนเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม อาศัยโรงงานที่มีอยู่ในจังหวัดระยอง ทำให้ไม่ต้องปรับเปลี่ยนระบบการผลิตครั้งใหญ่ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินงานนี้ GC ได้ลงนามข้อตกลงการจัดหาอีเทนนำเข้าระยะยาว กับบริษัทในเครือของ Enterprise Products Partners L.P. ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอีเทนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ข้อตกลงนี้ช่วยสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบในระยะยาว โดยมีปริมาณนำเข้า 400,000 ตันต่อปี รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง
เพื่อห่วงโซ่อุปทานมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ พันธมิตรได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือระยะยาว ได้แก่ ข้อตกลงการให้บริการเรือขนส่ง Very Large Ethane Carriers (VLECs) ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กับ MISC Berhad (MISC) ผู้นำด้านการขนส่งก๊าซเหลวระดับโลก เพื่อสนับสนุนการขนส่งอีเทนจากสหรัฐฯ อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และข้อตกลงการให้บริการท่าเทียบเรือระยะยาวระหว่าง GC กับ บริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด (TTT) เพื่อสนับสนุนการรับและจัดเก็บอีเทนนำเข้าที่ท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง
โดยคาดว่าจะเริ่มรับมอบอีเทนนำเข้าในปี 2572 ซึ่งจะช่วยเสริมความยืดหยุ่นของบริษัทในระยะยาว และ ความเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน มีเสถียรภาพ และมีต้นทุนประหยัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ GC ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ระดับโลก
“การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ GC ในการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว การนำเข้าและผสานอีเทนเข้าสู่กระบวนการผลิตช่วยเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานที่มีต้นทุนแข่งขันได้และมีความเสถียร สนับสนุนความเป็นผู้นำของ GC ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืน อีกทั้งยังเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลทางการค้าและขยายเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี”
ทั้งนี้ อีเทนมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำกว่าวัตถุดิบแบบดั้งเดิมอย่างแนฟทา ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบของ การใช้อีเทนจะช่วยให้สนับสนุนกลยุทธ์ลดการปล่อยคาร์บอน (decarbonization) ส่งเสริมมาตรฐาน ESG ระดับโลก และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต