ผู้ชมทั้งหมด 207
“สุริยะ” ชง ครม.สัปดาห์หน้าจ่ายชดเชยรถไฟฟ้า–รถเมล์ฟรี กว่า 190 ล้าน หลังมาตรการลดฝุ่นได้ผลตอบรับดีรถยนต์ส่วนบุคคลในกทม.ลดการใช้ลง 10% มั่นใจนโยบาย 20 บาทตลอดสายประสบผลสำเร็จแน่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ระหว่างวันที่25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น พบว่า ได้กระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก สามารถช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว เพราะนอกจากประชาชนทั่วไปมาใช้บริการแล้วยังมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งมาตรการนี้ยังสะท้อนถึงนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน และมั่นใจว่า ประชาชนจะให้การตอบรับที่ดี และหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนเงินที่ต้องชดเชยให้ผู้ประกอบการรถไฟฟ้านั้น กระทรวงคมนาคมได้จัดทำตัวเลขเพื่อสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ของบกลางในการประชุมสัปดาห์หน้า ทั้งสิ้น 190.41 ล้านบาท แบ่งเป็น บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 133.04 ล้านบาท รถฟ้าสายสีทอง 0.78 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน4.89 ล้านบาท และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 51.7 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการประเมินจากสถิติย้อนหลังตามค่าเฉลี่ย โดยไม่ได้นำจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเข้ามาคำนวณด้วยแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ประกอบด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีชมพูและสีเหลือง มีตัวเลขที่ต้องชดเชย รวมจำนวน 124.73 ล้านบาทนั้น สำนักงบประมาณเห็นว่ารฟม.ควรนำเงินทุนหมุนเวียนจากกำไรสะสมมาชดเชยในส่วนนี้ จึงไม่ต้องใช้งบประมาณส่วนกลางแต่อย่างใด
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลนั้น สำนักงานนโบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ได้สุ่มสำรวจจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร พบว่า จำนวนรถยนต์ที่วิ่งเข้าออกในกทม.มีประมาณ 10 ล้านคันต่อวัน ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 50% หรือประมาณ 5 ล้านคันต่อวัน และตั้งแต่ใช้มาตรการดังกล่าวปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลในกทม.ลดลง 10% หรือ ประมาณ 5 แสนคันต่อวัน
นายสุริยะ กล่าวว่า ส่วนแผนระยะกลาง – แผนระยะยาวนั้น กระทรวงคมนาคมจะเร่งดำเนินการส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ พร้อมกับเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นพลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงพิจารณาด้านมาตรการการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) โดยการสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อประชาชน อีกทั้ง ปรับภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) นอกจากนั้น จะจำกัดการใช้รถยนต์เก่า หรือจัดเก็บภาษีรถเก่า และเสริมสร้างแนวความคิดในการบูรณาการสวัสดิการกับนโยบายของแต่ละหน่วยงาน ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ จะปรับสู่รูปแบบ EV ทั้งหมด เพื่อมุ่งเน้นสร้างเสถียรภาพ และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป