ผู้ชมทั้งหมด 62
กบน.พร้อมพยุงราคาน้ำมันดีเซล 33 บาทต่อลิตร หลังครม.ไม่ต่ออายุหลังสิ้นสุด 31 ต.ค. เตรียมทยอยคืนหนี้เงินกู้กว่า 1 แสนล้าน เริ่ม 1 พ.ย.นี้ วางเป้าคืนหนี้หมดปี 71 ขณะที่แผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2568 -2572 คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 67- ก.ย. 68) คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะทยอยชำระหนี้เงินกู้ยืมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มชำระเงินต้นในเดือนพฤศจิกายน 2567 ประมาณ 139 ล้านบาท และเพิ่มการผ่อนชำระหนี้เงินต้นขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือนตามวงเงินกู้ยืม ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่รวมดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอีกประมาณ 250 – 300 ล้านบาท/เดือน โดยจะชำระหนี้เงินกู้เสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2571 จะที่เป็นหนี้เงินกู้อยู่ราว 105,333 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันในปีงบประมาณ 2568 สกนช.ก็ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีความผันผวนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องเรียกเก็บเงินไว้ในช่วงที่ยังมีภาระหนี้เงินกู้ยืม เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
พร้อมเร่งดำเนินการจัดทำแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2568 -2572 เพื่อเสนอต่อ ครม. โดยแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2567 นอกจากนี้ สกนช. ยังได้เร่งดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2567
ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไม่ต่ออายุมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 33 บาทต่อลิตรที่สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2567 นั้น กบน. จะดำเนินการบริหารราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันยังพอมีสภาพคล่องที่จะไปช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซลได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขราคาน้ำมันในตลาดโลกจะต้องไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้แม้จะเป็นช่วงไฮซีซั่นก็เชื่อว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะเฉลี่ยในระดับ 86-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในระดับ 81.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล