ผู้ชมทั้งหมด 822
หากพูดถึงหุ้นกู้หรือตราสารหนี้นั้นมีหลายรูปแบบมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละบริษัท โดยส่วนใหญ่การออกหุ้นกู้ของเอกชนนั้นมีความต้องการที่จะระดมทุน เพื่อใช้ในการขยายกิจการ ขยายการลงทุน โดยการลงทุนในหุ้นกู้จะให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ซึ่งถือเป็นการลงทุนอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับอีกหนึ่งหุ้นกู้ที่น่าสนใจออกและเสนอขายโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT คือ หุ้นกู้ Q-Bond รุ่นอายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.38% มูลค่าการเสนอขายรวม 500 ล้านบาท โดยเป็นการนำเสนอขายให้แก่ นักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะจํานวนไม่เกิน 10 ราย โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย นายทะเบียน และผู้ลงทุน และบริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด (ออร์บิกซ์ เทค) เป็นผู้พัฒนาและดูแลระบบแอปพลิเคชัน ภายใต้โครงการ Q-Bond (Bond data on Quarix chain) โดยเป็นการนำ Quarix Blockchain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมตราสารหนี้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ทั้งการจัดเก็บข้อมูล การคำนวณมูลค่าการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นของตราสารหนี้ที่ผู้ลงทุนจะได้รับในวันครบกำหนดไถ่ถอน ผ่านระบบงาน Q-Bond ตลอดจนมีการนำเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Q-money) ใน Quarix Blockchain มาใช้ชำระมูลค่าตราสารหนี้ จ่ายคืนดอกเบี้ยและเงินต้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและขั้นตอนในการทำธุรกรรม รวมถึงทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว และโปร่งใส นับเป็นความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่สะท้อนภาพการเป็นผู้นำในตลาดทุนของ ปตท. และเป็นก้าวสำคัญที่ภาคธุรกิจและภาคการเงินจับมือเป็นฟันเฟืองหลักในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างทัดเทียมระดับสากลต่อไป
อย่างไรก็ตามการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อรองรับการทําธุรกรรมการรับเงินจากการออกหุ้นกู้/การจ่ายดอกเบี้ยและการจ่ายคืนเงินต้นแบบ Real time ทั้งนี้ภายหลังการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ปตท.ยังมีวงเงินคงเหลืออีกจํานวน 155,000 ล้านบาท จากวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปตท. ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ที่ได้มีมติอนุมัติแผนการจัดหาเงินกู้ของ ปตท. ซึ่งหมายรวมถึงวงเงินการกู้ยืม และการก่อหนี้ของบริษัทย่อย เพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนให้ ปตท.ภายในวงเงินเทียบเท่า 200,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี (2565 – 2569) เพื่อใช้ในการลงทุน เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป และเพื่อทดแทนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ (Refinance)