ผู้ชมทั้งหมด 57
กบง. เตรียมถกสัปดาห์หน้า พิจารณาต่ออายุมาตรการตรึงราคา LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม หรือไม่ หลังครบกำหนด 30 ก.ย.นี้ ชี้มีแนวโน้มต่อมาตรการได้อีก 3 เดือน ถึงสิ้นปี67 เหตุเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่กองทุนน้ำมันฯ ยังดูแลได้
มาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จึงเตรียมการประชุมในสัปดาห์หน้า
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กบง. อาจตรึงราคาดังกล่าวต่อไปอีกประมาณ 3 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม ขณะที่ราคา LPG โลกยังไม่ปรับราคาสูงเกินกว่าระดับที่รับได้ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากเดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 580 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมตินำเงินจากบัญชี LPG ไปใช้ตรึงราคา LPG ไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม โดยพยุงราคาไว้ 3.86 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 25.87 บาทต่อกิโลกรัม หรือเท่ากับราคาที่รัฐตรึงไว้ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลให้เงินในบัญชี LPG ไหลออกวันละ 41.69 ล้านบาท แต่เนื่องจากยังมีรายได้จากการหารเฉลี่ยต้นทุนของผู้ค้า LPG ทำให้บัญชี LPG มีรายรับเข้ามา 45.92 ล้านบาทต่อวัน ทำให้ยังมีรายรับเข้ามาเหลือวันละ 4.24 ล้านบาทต่อวัน
ขณะที่ ส่วนกรอบเพดานวงเงิน LPG ที่ กบน. กำหนดให้ใช้สำหรับดูแลราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันใช้เงินไปแล้ว 47,455 ล้านบาท ยังเหลือเงินใช้ได้อีก 2,545 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ได้ถึงปี 2568 เนื่องจากบัญชี LPG ยังมีรายรับเข้ามาทุกวันทำให้สามารถใช้ตรึงราคาได้ต่อเนื่อง หากราคาLPG ตลาดโลกไม่ปรับสูงขึ้นมากนัก
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 15 ก.ย. 2567 พบว่า ติดลบลดลงเหลือ 103,347 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 55,892 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,455 ล้านบาท