ผู้ชมทั้งหมด 395
1 ต.ค.นี้ แอร์เอเชียบินตรง “ดอนเมือง-ลำปาง” เริ่มต้น 990 บาท มั่นใจตัวเลขผู้โดยสารปี 67 แตะ 22 ล้านคน เทียบเท่าช่วงก่อนโตวิด-19 ขณะที่ ททท. เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวทะลักเข้าลำปางแค่ครึ่งปีแรกกว่า 8 แสนคน เงินสะพัดเกือบ 2.6 พันล้าน
เมื่อวัน 16 ก.ค. ที่สนามบินดอนเมือง โถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคาร 2 ภายในประเทศ นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวแถลงข่าวเปิดเส้นทางบินใหม่ บินตรงทุกวัน“ดอนเมือง – ลำปาง”ว่า ลำปาง เป็นจุดหมายปลายทางที่ใครไปก็หลงรักได้ง่าย มีเสียงเรียกร้องให้เราเปิดบินตรงไปกลับดอนเมือง-ลำปางมาตลอด ซึ่งปัจจุบันสนามบินลำปางได้ขยายรันเวย์และมีความพร้อมเต็มที่แล้ว ไทยแอร์เอเชียก็พร้อมเช่นกัน ดังนั้นไทยแอร์เอเชียมีจะเริ่มบินเส้นทางดอนเมือง-ลำปาง ครั้งแรกในวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป วันละ 1 เที่ยวบิน ในราคาโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 990 บาท ผู้โดยสารสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้แล้วที่แอป AirAsia MOVE ตั้งแต่15 -28 ก.ค. 67
นายสันติสุข กล่าวอีกว่า ลำปาง ถือเป็นจุดหมายปลายทางภายในประเทศ ลำดับที่ 25 ของไทยแอร์เอเชีย ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดเส้นทางภายในประเทศสูงสุด โดยมีเส้นทางภายในประเทศ 34 เส้นทาง รวมเส้นทางข้ามภาค หรือ 612 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และลำปาง เป็น “เมืองสุดปัง ใครไปก็หลงรัก” มีแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ วัฒนธรรม เอกลักษณ์เป็นของลำปางเอง สถานที่เที่ยวยอดนิยมและคุ้นตาหลากหลาย อาทิ วัดพระธาตุลำปางหลวง (ประจำปีเกิดฉลู) วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส(สักการะรอยพระพุทธบาท-เจดีย์บนเขา) วัดพระธาตุดอยพระฌาน(พระใหญ่ไดบุตสึบนยอดเขา) หรือเที่ยวแบบธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน หรือเที่ยวแบบวิถีชีวิตที่บ้านป่าเหมี้ยง นั่งรถม้าชมเมือง ช้อปปิ้งที่กาดกองต้า และธนบดีเซรามิค(ชามตราไก่) ฯลฯ ครบถ้วนทุกกิจกรรมที่จังหวัดลำปางที่เดียว
อย่างไรก็ตามในส่วนของไทยแอร์เอเชียนั้น ตลาดเส้นทางในประเทศมีปริมาณความต้องการเดินทางสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแอร์เอเชียสามารถรองรับการเติบโตได้อย่างดี โดยในครึ่งปีเเรก 67 เส้นทางภายในประเทศภาพรวม ไทยแอร์เอเชียมีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยร้อยละ 90 ทั้งด้วยการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยที่เพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เชื่อมต่อมาจากเส้นทางระหว่างประเทศที่หลากหลายของแอร์เอเชีย สู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นความตั้งใจของสายการบินในการกระจายการท่องเที่ยวและรายได้ไปทั่วทุกภูมิภาค
“ช่วงไตรมาสแรกของปี 67 ไทยแอร์เอเชีย มีจำนวนผู้โดยสารในภาพรวมประมาณ 96% ทั้งเส้นทางบินในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ไตรมาสที่ 2 และ3 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นน่าจะอยู่ในระดับ 90% และจะกลับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้โดยสารทั้งปี 67 น่าจะใกล้เคียงกับปี 62 โดยน่าจะเพิ่มขึ้น20-25% ไปอยู่ที่ประมาณ 21-22 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 66 ที่มีผู้โดยสารอยู่ที่ 19 ล้านคน ดังนั้นคาดการณ์ว่าทั้งจำนวนผู้โดยสารและรายได้ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายสันติสุข กล่าว
นายสันติสุข กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น มาจากนโยบายวีซ่าฟรี ระหว่างไทย-จีน โดยช่วงไตรมาสแรกปี 67 มีตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปจีนเพิ่มขึ้นจาก 7-10% เป็น 15% ส่วนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็มีแนวโน้มที่ดี เวลานี้อยู่ที่ประมาณ 60% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการให้สิทธิทางการบินจากอินเดียแก่ไทย โดยเพิ่มที่นั่งให้สายการบินของไทยจำนวน 7,000 ที่นั่ง ก็ส่งผลให้เกิดการเดินทางที่สะดวกขึ้นด้วย
ต่อข้อถามถึงกรณีที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นว่า ไทยกำลังจะเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดใหญ่ กังวลว่าผู้โดยสารจะลดน้อยลงหรือไม่นั้น นายสันติสุข กล่าวว่า เวลานี้ยังมองไม่เห็นสัญญาณของการเดินทางที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ยังมีการเดินทางอย่างต่อเนื่อง แต่หากกำลังซื้อน้อยลงก็จะเป็นโอกาสของสายการบินต้นทุนต่ำที่จะเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น ในการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ใกล้และประหยัดขึ้น ทั้งนี้ หากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ แบบเราเที่ยวด้วยกัน ก็น่าจะช่วยกระตุ้นการเดินทางได้
ด้านนางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางในปี 67 ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 67 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังลำปางจำนวน 864,910 คน แบ่งเป็นคนไทย 822,376 คน ต่างชาติ 42,534 คน ซึ่งจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานั้นทำให้มีการประเมินว่าในจังหวัดลำปางมีเศรษฐกิจสะพัดกว่า 2,598.65ล้านบาท และมียอดจองห้องพักกว่า 3,238ห้อง
ด้าน นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) กล่าวว่า ในช่วงเดือนธ.ค 66 ทดม.มีผู้โดยสารใช้บริการ 94,000 คนต่อวัน รองรับเที่ยวบินมากกว่า 520 เที่ยวบินต่อวัน คาดว่าช่วง ต.ค. 67 นี้ จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนคนต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 v อย่างไรก็ตาม ทดม.อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 และ 2 เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในประเทศ และอยู่ระหว่างการออกแบบสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 เพื่อรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศ คาดว่าจะได้ตัวผู้รับเหมาก่อสร้างในปี 68 และใช้เวลาก่อสร้าง 4-5 ปี ก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งจะทำให้ ทดม.มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 50 ล้านคนต่อปี